ข้อกำหนดการขนส่งผู้โดยสารและสัมภาระ ของบริษัทการบินเวียดนาม - จำกัด (มหาชน)

ข้อที่ 1  คำนิยาม

ในเงื่อนไขการขนส่งฉบับนี้ คำศัพท์ที่ระบุไว้มีความหมายดังต่อไปนี้:

จุดหยุดพักที่กำหนดไว้ล่วงหน้า (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่าจุดหยุดพัก) คือจุดหยุดพักระหว่างทางที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ซึ่งไม่รวมจุดต้นทางและจุดหมายปลายทางสุดท้ายซึ่งได้ตกลงไว้ล่วงหน้ากับเราและแสดงไว้ในบัตรโดยสารของผู้โดยสาร

เรา หมายถึง บริษัท สายการบินเวียดนาม คอร์ปอเรชั่น - CTCP (สายการบินเวียดนาม JSC)

เอกสารอิเล็กทรอนิกส์อเนกประสงค์ (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “EMD”) หมายถึง เอกสารอิเล็กทรอนิกส์ที่ออกโดยเราหรือตัวแทนที่ได้รับการแต่งตั้งจากเรา ซึ่งสามารถออกแนบพร้อมกับบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์และมีอายุการใช้งานเท่ากับบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์นั้น หรือออกแยกต่างหากเพื่อใช้ในการให้บริการแก่ผู้โดยสารหรือตัวแทนซึ่งมีชื่อระบุไว้ใน EMD ฉบับดังกล่าว

อนุสัญญา หมายถึง อนุสัญญาว่าด้วยการรวมกฎเกณฑ์บางประการที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ ซึ่งได้ลงนาม ณ กรุงวอร์ซอ เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2472 (ต่อไปนี้เรียกว่า “อนุสัญญากรุงวอร์ซอ”); พิธีสารแก้ไขอนุสัญญากรุงวอร์ซอ ซึ่งได้ลงนาม ณ กรุงเฮก เมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2498; อนุสัญญาว่าด้วยการรวมกฎเกณฑ์บางประการที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ ซึ่งได้ลงนาม ณ เมืองมอนทรีออล เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2542 รวมถึงพิธีสารหรืออนุสัญญาอื่นใดที่มีผลบังคับใช้ด้วย

ตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับมอบหมาย คือตัวแทนจำหน่ายบัตรโดยสารที่ได้รับมอบหมายจากเราให้ดำเนินการขายผลิตภัณฑ์การขนส่งทางอากาศบนเที่ยวบินของเรา และหากได้รับอนุญาต ให้จัดจำหน่ายบนเที่ยวบินของสายการบินอื่น

เหตุสุดวิสัย คือเหตุการณ์ที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของเราและ/หรือผู้โดยสาร ซึ่งเกิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ ไม่อาจคาดการณ์ได้ และไม่สามารถแก้ไขได้ แม้จะใช้มาตรการที่จำเป็นและเป็นไปได้ทั้งหมดแล้วก็ตาม ตัวอย่าง: สงคราม ความขัดแย้งทางอาวุธ ความไม่มั่นคงทางการเมือง การนัดหยุดงานที่ส่งผลกระทบต่อเที่ยวบิน; การระบาดใหญ่ซึ่งจำเป็นต้องมีมาตรการควบคุมการเดินทางตามประกาศของทางการ; รวมถึงกรณีที่เที่ยวบินไม่สามารถดำเนินการได้หรือเกิดความล่าช้าเป็นเวลานานตามคำร้องขอของทางการ ทั้งนี้ หากเหตุการณ์ดังกล่าวเข้าข่ายเป็นเหตุสุดวิสัยตามที่กฎหมายกำหนด

เงื่อนไขของสัญญา  หมายถึง ข้อกำหนดและเงื่อนไขที่ใช้บังคับ ซึ่งระบุไว้ในบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ กำหนดการเดินทาง/ใบเสร็จรับเงินที่อ้างถึงในเงื่อนไขการขนส่งฉบับนี้ รวมถึงเงื่อนไขอื่นใดที่เราได้เผยแพร่ตามกฎหมาย ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาระหว่างเรากับผู้โดยสาร

เงื่อนไขการขนส่ง หมายถึง เงื่อนไขการขนส่งฉบับนี้ หรือเงื่อนไขการขนส่งของสายการบินอื่นในกรณีที่เกี่ยวข้อง

สายการบินอื่น หมายถึง สายการบินใด ๆ ที่ไม่ใช่เรา ซึ่งมีรหัสสายการบินระบุอยู่ในบัตรโดยสารหรือบัตรโดยสารเชื่อมต่อ

ผู้โดยสาร หมายถึง บุคคลใด ๆ ยกเว้นสมาชิกของลูกเรือที่ได้รับหรือจะได้รับการขนส่งบนเที่ยวบินด้วยความยินยอมของเรา

สัมภาระ หมายถึง สิ่งของและทรัพย์สินส่วนตัวของผู้โดยสารที่จำเป็นหรือเหมาะสมสำหรับการพกพาและใช้งานระหว่างการเดินทาง สัมภาระรวมทั้งสัมภาระเช็คอินและสัมภาระถือขึ้นเครื่องของผู้โดยสาร

สัมภาระเช็คอิน  หมายถึง สัมภาระที่เรารับผิดชอบในการดูแล ขนส่งและออกป้ายติดสัมภาระให้

สัมภาระถือขึ้นเครื่อง  หมายถึง สัมภาระใด ๆ ของผู้โดยสารที่ไม่ได้โหลดใต้ท้องเครื่อง รวมถึงสิ่งของที่ผู้โดยสารนำขึ้นเครื่องและดูแลเองระหว่างการเดินทาง

รูปแบบการชำระเงินดั้งเดิม คือรูปแบบการชำระเงินที่ผู้โดยสารใช้ (เช่น เงินสด บัตรเครดิต …) เพื่อซื้อบริการของเรา รูปแบบการชำระเงินเหล่านี้จะระบุไว้บนบัตรโดยสารและ/หรือ EMD

ข้อมูลการจองของผู้โดยสาร หมายถึง ข้อมูลที่จัดทำขึ้นโดยเรา หรือโดยตัวแทนที่ได้รับมอบหมายจากเรา ตามคำร้องขอของผู้โดยสาร หรือที่ผู้โดยสารเป็นผู้จัดทำด้วยตนเองผ่านทางเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ของเรา ซึ่งข้อมูลดังกล่าวจะถูกจัดเก็บไว้ในระบบการจองของเรา และประกอบด้วยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้โดยสาร (เช่น ชื่อ เพศ วันเดือนปีเกิด ข้อมูลการติดต่อ ฯลฯ) ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับการเดินทาง (เช่น จุดเริ่มต้น ปลายทาง สายการบิน วันที่เดินทาง เวลาเดินทาง และสถานะการจอง ฯลฯ) รวมถึงบริการเสริมอื่น ๆ เพื่อใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการออกบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ และเอกสาร EMD.

รหัสสายการบิน หมายถึง รหัสที่ประกอบด้วยอักขระสองตัว (ตัวอักษรหรือตัวอักษรร่วมกับตัวเลข) หรือสามตัวเลข ซึ่งใช้เพื่อระบุสายการบินที่ให้บริการโดยเฉพาะเจาะจง

กำหนดการบิน หมายถึง ข้อมูลที่ประกอบด้วยสถานที่ต้นทาง จุดหมายปลายทาง เวลาที่คาดว่าจะออกเดินทาง และเวลาที่คาดว่าจะถึงปลายทาง

วัน หมายถึง วันตามปฏิทินที่ครอบคลุมทั้งเจ็ดวันในหนึ่งสัปดาห์ ทั้งนี้ เพื่อวัตถุประสงค์ในการแจ้งเตือน จะไม่นับรวมวันที่ส่งการแจ้งเตือน และเพื่อวัตถุประสงค์ในการกำหนดระยะเวลาที่บัตรโดยสารยังมีผลใช้ จะไม่นับรวมวันที่ออกบัตรโดยสารหรือวันที่เริ่มต้นการเดินทาง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หมายถึง หน่วยงานของรัฐ หน่วยงานกำกับดูแลเฉพาะทาง หรือองค์กร/บุคคลที่ได้รับมอบอำนาจ

ใบแลกซื้ออิเล็กทรอนิกส์ (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า E-voucher) หมายถึง หลักฐานการชำระเงินในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งออกโดยเรา หรือโดยตัวแทนที่ได้รับมอบหมายจากเรา E-voucher สามารถใช้ในการชำระเงิน (แทนเงินสดหรือรูปแบบการชำระเงินอื่น ๆ) สำหรับสินค้าและบริการที่เรายอมรับผ่านทางเว็บไซต์ สาขา และตัวแทนที่ได้รับมอบหมายจากเรา ระยะเวลาการใช้งานของ E-voucher จะระบุไว้อย่างชัดเจนใน E-voucher ผู้โดยสารสามารถติดต่อเราเพื่อตรวจสอบระยะเวลาการใช้งานของ E-voucher ได้

ข้อกำหนดอื่นๆ ของเรา หมายถึง กฎ ระเบียบ หรือข้อบังคับอื่นใดที่อยู่นอกเหนือจากข้อบังคับในการขนส่งฉบับนี้และอัตราค่าบริการ ซึ่งเรา เป็นผู้ออกประกาศและได้เปิดเผยต่อสาธารณชนตามที่กฎหมายกำหนด

SDR หรือชื่อเต็มว่า Special Drawing Rights (สิทธิถอนเงินพิเศษ) เป็นหน่วยคำนวณของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ซึ่งอิงตามมูลค่าของสกุลเงินสำคัญหลายสกุล มูลค่าของ SDR มีการเปลี่ยนแปลงและคำนวณใหม่ในแต่ละวัน มูลค่าดังกล่าวได้รับการยอมรับจากธนาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่ และมีการรายงานเป็นระยะผ่านวารสารทางการเงินที่มีชื่อเสียง รวมถึงเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ของ IMF (www.imf.org)

ป้ายติดสัมภาระ หมายถึง เอกสารที่ออกเพื่อใช้ในการระบุการขนส่งสัมภาระที่โหลดใต้ท้องเครื่อง และใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินการกรณีเกิดเหตุผิดปกติเกี่ยวกับสัมภาระที่โหลดใต้ท้องเครื่อง

บัตรขึ้นเครื่อง หมายถึง เอกสารที่ออกให้ในขณะทำการเช็กอินเที่ยวบิน เพื่อใช้สำหรับผู้โดยสารในการขึ้นเครื่องบิน ผู้โดยสารต้องแสดง บัตรขึ้นเครื่อง ที่ประตูทางขึ้นเครื่องบิน

ความเสียหาย หมายถึง (i) การเสียชีวิตหรือการบาดเจ็บของผู้โดยสาร หรือการบาดเจ็บทางร่างกายใด ๆ ที่ผู้โดยสารได้รับ ซึ่งเกิดจากอุบัติเหตุภายในเครื่องบิน หรือระหว่างกระบวนการขึ้นหรือลงจากเครื่องบิน; (ii) ความเสียหาย การสูญหายบางส่วนหรือทั้งหมดของสัมภาระที่เกิดขึ้นระหว่างกระบวนการขนส่งทางอากาศ; (iii) ความเสียหายอันเกิดจากการล่าช้าในการขนส่ง การยกเลิกเที่ยวบิน หรือกรณีผู้โดยสารพลาดการต่อเที่ยวบิน โดยมิใช่ความผิดของผู้โดยสาร

เวลาปิดให้บริการเช็คอิน หมายถึง เวลาที่กำหนดโดยสายการบินซึ่งผู้โดยสารต้องดำเนินการเช็คอินและรับบัตรขึ้นเครื่องก่อนเวลานั้นแล้ว

ใบรายละเอียดการเดินทาง/ใบเสร็จรับเงิน หมายถึง เอกสารหรือชุดเอกสารที่ออกโดยเราหรือโดยตัวแทนที่ได้รับมอบหมายจากเราเพื่อใช้สำหรับผู้โดยสารที่ใช้บัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งประกอบด้วยข้อมูลเกี่ยวกับผู้จัดจำหน่ายบัตรโดยสาร สถานที่ออกบัตรโดยสาร หมายเลขบัตรโดยสาร ชื่อผู้โดยสาร ข้อมูลเส้นทางการเดินทาง เงื่อนไขของสัญญา และข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

คูปองเที่ยวบินอิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง ข้อมูลเส้นทางการเดินทางที่แสดงถึงจุดต่าง ๆ ที่ผู้โดยสารมีสิทธิในการเดินทางระหว่างแต่ละจุดดังกล่าว ข้อมูลนี้จะถูกจัดเก็บไว้ในฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ของเรา

คูปองเที่ยวบินฉบับกระดาษ เป็นเอกสารที่แสดงข้อมูลเส้นทางการเดินทาง ปริมาณหรือ น้ำหนักสัมภาระส่วนเกินที่ผู้โดยสารซื้อเพิ่มเติม และข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เส้นทางที่ผู้โดยสารซื้อสัมภาระเพิ่มเติมจะต้องตรงกับเส้นทางการเดินทางที่ระบุในบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์หรือในคูปองเที่ยวบินอิเล็กทรอนิกส์

บัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า บัตรโดยสาร) หมายถึง ข้อมูลบันทึกที่ออกโดยเรา หรือโดยตัวแทนที่ได้รับมอบหมายจากพวกเรา ซึ่งประกอบด้วยข้อมูลของผู้โดยสาร เส้นทางการเดินทาง ราคารวมของบริการ และจัดเก็บไว้ในฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ของเรา และ/หรือของสายการบินที่ร่วมให้บริการในเส้นทางการเดินทางของผู้โดยสาร

บัตรโดยสารสัมภาระที่ต้องชำระค่าบริการ หมายถึง บัตรโดยสารฉบับกระดาษที่ออกโดยเรา เพื่อเรียกเก็บค่าบริการการขนส่งสัมภาระที่มีจำนวนเกินกว่ากำหนดฟรีทั้งในด้านจำนวนชิ้น น้ำหนัก หรือขนาด สำหรับเที่ยวบินของเรา หรือของสายการบินอื่นตามที่ระบุในบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ ในกรณีดังกล่าว บัตรโดยสารสัมภาระที่ต้องชำระค่าบริการจะมีอายุการใช้งานสอดคล้องกับบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์

บัตรโดยสารเชื่อมต่อ หมายถึง บัตรโดยสารที่ออกให้แก่ผู้โดยสารร่วมกับบัตรโดยสารอื่นหนึ่งฉบับหรือมากกว่า ซึ่งถือเป็นสัญญาการขนส่งฉบับเดียวกันตามที่กฎหมายกำหนด

สาขาของเรา หมายถึง สำนักงานสาขาภายในและภายนอกประเทศของเรา

เว็บไซต์และแอปพลิเคชันมือถือของเรา หมายถึง เว็บไซต์ https://www.vietnamairlines.com และแอปพลิเคชันมือถือของสายการบินเวียดนาม

ศูนย์บริการผู้โดยสารทางโทรศัพท์ หมายถึง ศูนย์บริการผู้โดยสารของเราที่ระบุไว้ในเว็บไซต์และแอปพลิเคชันมือถือ

ICAO ย่อจากภาษาอังกฤษคือ International Civil Aviation Organization ซึ่งเป็นองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ

IATA ย่อจากภาษาอังกฤษคือ International Air Transport Association ซึ่งเป็นสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ

ข้อที่ 2 ขอบเขตของการบังคับใช้

2.1.     ข้อกำหนดทั่วไป

2.1.1.  เงื่อนไขการขนส่งนี้ใช้กับเที่ยวบินทุกเที่ยวที่เราให้บริการ รวมถึงในกรณีที่เรามีความรับผิดชอบทางกฎหมายเกี่ยวกับผู้โดยสารและเที่ยวบินของผู้โดยสาร ยกเว้นกรณีที่ระบุไว้ในข้อ 2.2, 2.5 และ 2.6

2.1.2.  เงื่อนไขการขนส่งนี้ให้ใช้กับการขนส่งโดยไม่เก็บค่าโดยสารและการขนส่งที่มีการลดราคาด้วย เว้นแต่จะมีข้อกำหนดเป็นอย่างอื่นที่เราได้ประกาศให้ทราบตามที่กฎหมายกำหนด

2.1.3.  เงื่อนไขการขนส่งได้รับการประกาศโดยเปิดเผยตามที่กฎหมายกำหนด และผู้โดยสารสามารถร้องขอเพื่อขอรับรายละเอียดได้ทุกเมื่อ

2.2 การขนส่งไปยัง/ออกจากสหรัฐอเมริกา แคนาดา

2.2.1.  เงื่อนไขการขนส่งนี้ให้ใช้กับผู้โดยสารที่เดินทางไปหรือมาจากสหรัฐอเมริกาและดินแดนของสหรัฐฯ ตามข้อกำหนดของกระทรวงคมนาคมสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขว่าจุดหมายดังกล่าวรวมอยู่ในอัตราค่าบริการที่มีผลบังคับใช้ในสหรัฐอเมริกา

2.2.2.  เงื่อนไขการขนส่งนี้ใช้กับการขนส่งระหว่างจุดภายในประเทศแคนาดา และระหว่างจุดหนึ่งในประเทศแคนาดากับจุดใด ๆ นอกประเทศแคนาดา ภายใต้เงื่อนไขว่าจุดดังกล่าวอยู่ในค่าบริการที่มีผลบังคับใช้ในประเทศแคนาดา

2.3.     เที่ยวบินเช่าเหมาลำ

หากการขนส่งดำเนินการตามสัญญาเที่ยวบินเช่าเหมาลำ เงื่อนไขการขนส่งนี้จะมีผลบังคับใช้ในกรณีที่มีการอ้างอิงถึง หรือมีการระบุในบัตรโดยสารหรือข้อตกลงอื่น ๆ กับผู้โดยสาร

2.4.     เที่ยวบินร่วม

ในบางเที่ยวบิน เราอาจมีข้อตกลงดำเนินการร่วมกันกับสายการบินอื่น ซึ่งเรียกว่า “เที่ยวบินร่วม” ซึ่งหมายความว่า แม้ผู้โดยสารจะทำการจองกับเราและมีบัตรโดยสารที่ระบุชื่อหรือรหัสสายการบินของเรา สายการบินที่ให้บริการเที่ยวบินอาจเป็นสายการบินอื่น ในกรณีที่ข้อตกลงดังกล่าวมีผลบังคับใช้ เราจะแจ้งให้ผู้โดยสารทราบถึงชื่อของสายการบินที่ให้บริการเที่ยวบินในระหว่างการจอง

2.5.      กฎหมายที่บังคับใช้

กฎหมายที่ใช้บังคับในเงื่อนไขการขนส่งนี้คือกฎหมายของประเทศเวียดนาม สำหรับการขนส่งระหว่างประเทศที่อยู่ภายใต้ขอบเขตของอนุสัญญา ให้ใช้ข้อกำหนดของอนุสัญญาดังกล่าวเป็นบรรทัดฐาน

ในกรณีที่มีความขัดแย้งหรือความไม่สอดคล้องกันระหว่างเงื่อนไขการขนส่งนี้กับข้อกำหนดของกฎหมายเวียดนามหรือข้อกำหนดของอนุสัญญา ให้ใช้ข้อกำหนดของกฎหมายเวียดนามและอนุสัญญาเป็นหลัก

2.6.      การให้ความสำคัญกับเงื่อนไขการขนส่ง

ยกเว้นที่กำหนดไว้ในเงื่อนไขการขนส่ง ในกรณีที่มีความไม่สอดคล้องกันระหว่างเงื่อนไขการขนส่งนี้กับข้อกำหนดอื่นของสายการบิน ให้ถือว่าเงื่อนไขการขนส่งนี้มีผลใช้บังคับเหนือกว่า

ข้อที่ 3 บัตรโดยสาร

3.1.      ข้อกำหนดทั่วไป

บัตรโดยสาร หมายถึง เอกสารการขนส่งผู้โดยสารทางอากาศและการขนส่งรูปแบบอื่นที่ออกในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์โดยเราหรือโดยตัวแทนที่ได้รับการแต่งตั้ง ตามที่กำหนดไว้ในข้อ 6 ของเงื่อนไขการขนส่งฉบับนี้ และถือเป็นหลักฐานแห่งสัญญาระหว่างเรากับผู้โดยสารซึ่งมีชื่อระบุในบัตรโดยสาร โดยมีข้อมูลส่วนบุคคลของผู้โดยสารและรายละเอียดของแผนการเดินทางทางอากาศ (เที่ยวบิน ชั้นบริการ จุดแวะ สถานะของเอกสารการเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ ฯลฯ) เงื่อนไขของสัญญา และข้อกำหนดอื่น ๆ ที่ผู้โดยสารและเราได้ตกลงร่วมกัน ณ เวลาทำการสำรองที่นั่งและออกบัตรโดยสารตามกฎหมายที่ใช้บังคับ

3.1.1.   เราจะให้บริการขนส่งผู้โดยสารเฉพาะในกรณีที่:

3.1.1.1.    ผู้โดยสารมีที่นั่งที่ได้รับการยืนยันบนเที่ยวบิน และมีบัตรโดยสารที่ยังมีผลบังคับใช้ โดยที่เอกสารการเดินทางอิเล็กทรอนิกส์สำหรับเที่ยวบินดังกล่าวยังไม่ถูกใช้งาน; และ

3.1.1.2.     ชื่อของผู้โดยสารบนบัตรโดยสารตรงกับชื่อในประวัติการจองและตรงกับชื่อในเอกสารประจำตัวที่ผู้โดยสารแสดงขณะทำการเช็คอิน ผู้โดยสารอาจต้องแสดงใบกำหนดการเดินทาง/ใบเสร็จรับเงิน (ทั้งแบบพิมพ์หรืออิเล็กทรอนิกส์) ให้กับเจ้าหน้าที่เช็คอินหรือเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินของเราที่สนามบินเมื่อได้รับการร้องขอ

3.1.2.  ผู้โดยสารไม่สามารถโอนบัตรโดยสารของตนให้ผู้อื่นได้

3.1.3.  บัตรโดยสารที่ซื้อในราคาลดพิเศษบางประเภทอาจไม่สามารถคืนเงินได้ทั้งหมดหรือบางส่วน ผู้โดยสารควรเลือกประเภทบัตรโดยสารที่เหมาะสมกับความต้องการของตนเอง

3.1.4.  หากผู้โดยสารที่ถือบัตรโดยสารตามข้อ 3.1.3 ไม่สามารถเดินทางได้เนื่องจากเหตุสุดวิสัย และสามารถแสดงหลักฐานประกอบได้ เราจะยกเว้นข้อจำกัดเกี่ยวกับการขอคืนเงิน และคืนมูลค่าของส่วนการเดินทางที่ยังไม่ได้ใช้งานตามที่ระบุในข้อ 11.3 ของเงื่อนไขการขนส่งฉบับนี้ สำหรับบัตรโดยสารที่มีแผนการเดินทางที่เดินทางจาก/ไปยังสหรัฐอเมริกาหรือภายในสหรัฐอเมริกา เราจะไม่คืนมูลค่าส่วนการเดินทางที่ยังไม่ได้ใช้งานในรูปแบบ EMD หรือ E-Voucher

3.1.5.  ข้อกำหนดเกี่ยวกับบัตรโดยสาร

3.1.5.1.    สำหรับบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์:

ผู้โดยสารจะได้รับการขนส่งเฉพาะเมื่อมีบัตรโดยสารที่ยังมีผลบังคับใช้ ซึ่งออกอย่างถูกต้องให้แก่ผู้โดยสารนั้น โดยเที่ยวบิน วันที่ และชั้นโดยสารบนเอกสารการเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ ต้องตรงกับข้อมูลในประวัติการจอง

หากมีความคลาดเคลื่อนระหว่างบัตรโดยสาร เอกสารการเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ และประวัติการจอง ผู้โดยสารอาจถูกปฏิเสธการเดินทาง หรืออาจได้รับอนุญาตให้เดินทางได้หากชำระส่วนต่างค่าบริการและค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมตามเงื่อนไขของอัตราค่าบริการที่ใช้บังคับ

หากผู้โดยสารไม่สามารถแสดงใบกำหนดการเดินทาง/ใบเสร็จรับเงิน (ทั้งแบบพิมพ์หรืออิเล็กทรอนิกส์) ได้ เราจะเรียกดูข้อมูลบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์จากระบบของเราจากประวัติการจองของผู้โดยสาร โดยผู้โดยสารต้องแสดงเอกสารประจำตัวที่เหมาะสมเพื่อยืนยันว่าบัตรโดยสารนั้นเป็นของตนเองและยังมีผลใช้บังคับ

ในกรณีที่บัตรโดยสารเริ่มต้นถูกออกโดยไม่มีการระบุที่นั่งแน่นอน วันที่และเที่ยวบินในเอกสารการเดินทางอิเล็กทรอนิกส์สามารถจองภายหลังได้ตามเงื่อนไขของประเภทอัตราค่าบริการที่ใช้บังคับ และขึ้นอยู่กับสถานะที่นั่งในเที่ยวบินที่ผู้โดยสารร้องขอ

3.1.5.2.    สำหรับบัตรโดยสารสัมภาระกระดาษ:

เราจะรับขนส่งสัมภาระเฉพาะสำหรับผู้โดยสาร เที่ยวบิน และปริมาณตามที่ระบุในบัตรโดยสารสัมภาระเท่านั้น หากผู้โดยสารสามารถแสดงบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ที่มีชื่อตรงกับชื่อในบัตรโดยสารสัมภาระ และแสดงเอกสารประจำตัวที่ถูกต้อง เราจะไม่รับขนส่งสัมภาระหากบัตรโดยสารสัมภาระฉีกขาดหรือถูกแก้ไขโดยบุคคลอื่นที่ไม่ใช่เรา

3.1.6.   สูญหาย ฉีกขาด หรือแสดงบัตรโดยสารสัมภาระไม่ครบถ้วน

3.1.6.1.    หากบัตรโดยสารสัมภาระสูญหายหรือฉีกขาด (ทั้งหมดหรือบางส่วน) หากผู้โดยสารร้องขอ เราจะออกบัตรโดยสารสัมภาระใหม่ (ทั้งหมดหรือบางส่วน) แทนของเดิม เมื่อเรายืนยันได้ว่าบัตรเดิมถูกออกอย่างถูกต้องและยังมีผลบังคับใช้สำหรับเที่ยวบินที่เกี่ยวข้อง ในกรณีนี้ ผู้โดยสารต้องลงนามในหนังสือรับรองว่าหากบัตรเดิมที่สูญหาย ถูกนำไปใช้ หรือได้รับการคืนเงินไปแล้ว ผู้โดยสารจะชำระค่าใช้จ่ายตามอัตราที่ใช้บังคับสำหรับการออกบัตรใหม่ให้กับเรา

3.1.6.2.    หากไม่มีหลักฐานตามข้อ 3.1.6.1 หรือผู้โดยสารไม่ลงนามในหนังสือรับรอง เราอาจเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการออกบัตรโดยสารสัมภาระใหม่ตามอัตราที่ใช้ในขณะนั้น หากผู้โดยสารสามารถหาบัตรเดิมพบก่อนที่บัตรดังกล่าวจะหมดอายุ ผู้โดยสารสามารถแสดงบัตรเดิมเพื่อขอรับเงินคืนจากเราได้

3.1.6.3.     ผู้โดยสารควรใช้ความระมัดระวังอย่างเหมาะสมเพื่อไม่ให้บัตรโดยสารสัมภาระสูญหายหรือชำรุดเสียหาย

3.2.     ระยะเวลาที่บัตรโดยสารและ EMD มีผลบังคับใช้

3.2.1.  เว้นแต่ประเภทของอัตราค่าบริการที่ใช้จะมีข้อกำหนดอื่นเกี่ยวกับระยะเวลาที่บัตรโดยสารมีผลบังคับใช้ หรือเว้นแต่จะมีข้อกำหนดอื่นในข้อบังคับการขนส่งนี้ หรือข้อกำหนดอื่นของเรา ระยะเวลาที่บัตรโดยสารมีผลบังคับใช้จะเป็นดังนี้:

3.2.1.1.    หนึ่งปีนับจากวันที่ออกบัตร หากบัตรโดยสารยังไม่ได้ใช้งาน; หรือ

3.2.1.2.    หนึ่งปีนับจากวันเดินทางครั้งแรกที่ระบุในบัตร หากมีการใช้งานบัตรบางส่วนแล้ว และวันที่เดินทางครั้งแรกนั้นอยู่ภายในหนึ่งปีนับจากวันที่ออกบัตร

3.2.2.  เว้นแต่จะมีข้อกำหนดอื่นของเรา EMD จะมีผลบังคับใช้หนึ่งปีนับจากวันที่ออก EMD จะไม่สามารถใช้ได้หากผู้โดยสารไม่แสดง EMD เพื่อรับบริการตามที่ระบุไว้ภายในระยะเวลาที่กำหนด หรือไม่เปลี่ยนเป็นบัตรโดยสารภายในหนึ่งปีนับจากวันที่ออก EMD

3.2.3.  หากผู้โดยสารไม่สามารถดำเนินการเดินทางต่อหลังจากเริ่มต้นเที่ยวบินแรกเนื่องจากปัญหาสุขภาพ บัตรโดยสารอาจได้รับการต่ออายุจนกว่าผู้โดยสารจะมีสุขภาพพร้อมเดินทาง หรือจนกว่าจะมีเที่ยวบินแรกของเราหลังจากวันที่ผู้โดยสารมีสุขภาพพร้อมเดินทาง โดยเริ่มจากจุดที่การเดินทางของผู้โดยสารถูกขัดจังหวะ ทั้งนี้ ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขว่ามีที่นั่งว่างในชั้นที่ผู้โดยสารได้ซื้อก่อนหน้านั้นแล้ว เหตุผลด้านสุขภาพตามที่ได้กล่าวถึงนั้น จะต้องได้รับการรับรองโดยหนังสือรับรองจากหน่วยงานทางการแพทย์ที่มีอำนาจ และบัตรโดยสารสามารถขยายระยะเวลาการใช้ได้ไม่เกินสามเดือนนับจากวันที่ระบุในหนังสือรับรองจากหน่วยงานทางการแพทย์ ในกรณีนี้ เราจะต่ออายุการใช้งานของบัตรโดยสารให้กับบัตรของสมาชิกในครอบครัว (พ่อแม่ พี่น้อง ภรรยา สามี ลูก) ที่เดินทางร่วมกับผู้โดยสาร

3.2.4.  ในกรณีที่ผู้โดยสารเสียชีวิตระหว่างการเดินทาง บัตรโดยสารของสมาชิกในครอบครัวที่เดินทางร่วมกัน (พ่อแม่ พี่น้อง ภรรยา สามี ลูก) อาจได้รับการเปลี่ยนแปลงข้อมูล และได้รับการยกเว้นเงื่อนไขข้อจำกัดรวมถึงค่าธรรมเนียมในการเปลี่ยนแปลง

ในกรณีที่สมาชิกในครอบครัวของผู้โดยสาร (พ่อแม่ พี่น้อง ภรรยา สามี ลูก) เสียชีวิตหลังจากที่ผู้โดยสารเริ่มต้นการเดินทางแล้ว บัตรโดยสารของผู้โดยสารอาจได้รับการเปลี่ยนแปลง และได้รับการยกเว้นเงื่อนไขข้อจำกัดรวมถึงค่าธรรมเนียมในการเปลี่ยนแปลง หากผู้โดยสารสามารถแสดงหลักฐานความสัมพันธ์กับสมาชิกในครอบครัวที่เสียชีวิตได้

การเปลี่ยนแปลงบัตรโดยสารในกรณีดังกล่าวจะสามารถดำเนินการได้ต่อเมื่อเราได้รับใบมรณบัตร หรือหนังสือรับรองอื่นที่มีความน่าเชื่อถือและมีผลใช้บังคับในลักษณะเดียวกัน และหากการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวทำให้ต้องขยายระยะเวลาการใช้บัตรโดยสาร ระยะเวลาที่ขยายออกไปจะไม่เกิน 45 วันนับจากวันที่บุคคลดังกล่าวเสียชีวิต

3.3.     ลำดับของคูปองเที่ยวบิน

3.3.1.  ราคาบัตรโดยสารที่ผู้โดยสารชำระจะถูกคำนวณบนพื้นฐานของการเดินทางทั้งหมด ตั้งแต่จุดเริ่มต้น ผ่านจุดแวะพักที่ตกลงไว้ ไปยังจุดหมายปลายทางสุดท้ายของการเดินทาง และใช้ได้เฉพาะสำหรับการขนส่งตามลำดับของแต่ละช่วงการเดินทางที่ระบุไว้ในบัตรโดยสาร หากเอกสารการเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ (หรือช่วงการเดินทางที่ระบุในบัตรโดยสาร) ไม่ถูกใช้ตามลำดับที่ระบุในบัตรโดยสาร บัตรโดยสารนั้นจะหมดอายุและไม่สามารถใช้งานได้ในเกือบทุกกรณี ผู้โดยสารสามารถติดต่อกับเราหรือตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับการแต่งตั้ง เพื่อขอคืนเงินค่าส่วนของการเดินทางที่ยังไม่ได้ใช้งาน ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในข้อ 11 ของเงื่อนไขการขนส่งฉบับนี้

3.3.2.  หากผู้โดยสารประสงค์จะเปลี่ยนแปลงช่วงการเดินทางใด ๆ ในเส้นทางที่ระบุไว้ในบัตรโดยสาร ผู้โดยสารจะต้องติดต่อแจ้งกับเราหรือตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับการแต่งตั้ง ตัวแทนที่ได้รับการแต่งตั้งหรือเราจะคำนวณราคารวมของบริการใหม่อีกครั้ง (i) ตามราคาปัจจุบัน ณ เวลาที่ผู้โดยสารร้องขอ หากบัตรโดยสารยังไม่ได้ใช้งาน หรือ (ii) ตามราคา ณ เวลาที่ผู้โดยสารซื้อบัตรโดยสารเดิม หากมีการใช้งานบัตรโดยสารไปแล้วบางส่วน  ผู้โดยสารอาจต้องชำระส่วนต่างระหว่างราคารวมของบริการที่ได้ชำระไว้กับราคารวมของบริการที่ใช้กับเส้นทางใหม่ ผู้โดยสารยังสามารถเลือกเดินทางตามแผนเดิมที่ระบุในบัตรโดยสารได้

หากผู้โดยสารต้องเปลี่ยนแปลงเส้นทางการเดินทางเนื่องจากเหตุสุดวิสัย ผู้โดยสารจะต้องแจ้งให้เราทราบโดยเร็วที่สุด และเราจะพยายามอย่างเหมาะสมในการจัดหาการขนส่งเพื่อให้ผู้โดยสารเดินทางไปยังจุดแวะถัดไปหรือจุดหมายปลายทางสุดท้าย เราจะคำนวณราคารวมของบริการใหม่ตามหลักการข้างต้น และผู้โดยสารอาจต้องชำระส่วนต่างระหว่างราคาที่ได้ชำระไปแล้วกับราคาที่ใช้กับเส้นทางใหม่ ในกรณีที่ผู้โดยสารไม่สามารถเดินทางตามแผนได้ เราจะคืนเงินราคารวมของบริการที่ยังไม่ได้ใช้ โดยจะยกเว้นค่าธรรมเนียมการคืนบัตรโดยสารและข้อจำกัดอื่นเกี่ยวกับการคืนเงิน

3.3.3.  หากผู้โดยสารไม่ใช้ช่วงการเดินทางตามลำดับที่ระบุในบัตรโดยสารโดยไม่ได้รับความยินยอมล่วงหน้าจากเรา เราจะคำนวณราคาบริการใหม่ตามเวลาที่มีการเปลี่ยนแปลง โดยใช้เงื่อนไขราคาที่เหมาะสมกับเส้นทางการเดินทางจริงของผู้โดยสาร หากบัตรโดยสารถูกใช้งานไปแล้วบางส่วน ราคาบริการสำหรับเส้นทางใหม่จะอ้างอิงจากราคา ณ เวลาที่ผู้โดยสารซื้อบัตรโดยสารเดิม ผู้โดยสารอาจต้องชำระส่วนต่างเพิ่มเติมระหว่างราคาที่ได้ชำระไปแล้วกับราคาที่ใช้กับเส้นทางใหม่ รวมถึงภาษี ค่าธรรมเนียม ค่าบริการเพิ่มเติม ค่าธรรมเนียมการเปลี่ยนแปลง และค่าธรรมเนียมการไม่แสดงตัว (หากมี)

3.3.4.  ผู้โดยสารควรทราบว่า มีการเปลี่ยนแปลงบางประเภทที่ไม่ส่งผลต่อราคาบริการ แต่ก็มีการเปลี่ยนแปลงอื่น เช่น การเปลี่ยนวันที่เดินทาง การเปลี่ยนชั้นบริการ การเปลี่ยนช่วงการเดินทาง ซึ่งอาจทำให้ราคาสูงขึ้น อัตราค่าบริการหลายประเภทมีผลใช้เฉพาะในวันและเที่ยวบินที่ระบุไว้ในบัตรโดยสารเท่านั้น และอาจไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้เลย หรือสามารถเปลี่ยนได้เฉพาะเมื่อผู้โดยสารชำระเงินเพิ่ม ผู้โดยสารสามารถติดต่อเราหรือผู้ออกบัตรเพื่อรับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับราคาที่เพิ่มขึ้นสำหรับการเปลี่ยนแปลง

3.3.5.  ผู้โดยสารควรทราบว่า หากผู้โดยสารไม่ปรากฏตัวเพื่อเดินทางในช่วงการเดินทางตามลำดับที่ระบุไว้ในบัตรโดยสารและในประวัติการจอง โดยไม่ได้แจ้งล่วงหน้า เราอาจยกเลิกการจองในช่วงการเดินทางถัดไป ในกรณีนี้ ผู้โดยสารต้องติดต่อเราเพื่อตรวจสอบสถานะของบัตรโดยสาร จองที่นั่งใหม่สำหรับช่วงที่ถูกยกเลิก หรือขอคืนเงินตามเงื่อนไขของอัตราค่าบริการที่ชำระไว้

3.4.      ชื่อและที่อยู่ของเรา

ชื่อของเราอาจปรากฏเป็นรหัสสายการบิน "VN" บนบัตรโดยสารของเรา ที่อยู่ที่จดทะเบียนของเราคือ 200 ถนนเหงียนเซิน ลองเบียน ฮานอย เวียดนาม

ข้อที่ 4 จุดแวะพัก

4.1.     จุดแวะพัก หมายถึง จุดที่ผู้โดยสารสามารถหยุดพักระหว่างการเดินทางตามที่ระบุไว้ในบัตรโดยสาร โดยต้องเป็นไปตามข้อกำหนดของหน่วยงานที่มีอำนาจและเงื่อนไขของประเภทอัตราค่าบริการที่ใช้บังคับ

ในกรณีที่ผู้โดยสารถือบัตรโดยสารซึ่งออกภายใต้อัตราค่าบริการที่มีข้อจำกัดเกี่ยวกับจุดแวะพัก หรือถูกจำกัดโดยหน่วยงานที่มีอำนาจ ผู้โดยสารจะต้องปฏิบัติตามข้อจำกัด คำสั่งห้ามแวะพัก หรือชำระค่าธรรมเนียมจุดแวะพักเพิ่มเติมตามที่กำหนดไว้ในตารางอัตราค่าบริการที่เราได้ประกาศเปิดเผยตามที่กฎหมายกำหนด

4.2.      จุดแวะพักต้องได้รับการตกลงล่วงหน้ากับสายการบินและต้องระบุไว้ในบัตรโดยสาร

ข้อที่ 5  ค่าบริการ ภาษี ค่าธรรมเนียม ค่าบริการเสริมและค่าธรรมเนียมเสริม

5.1.     ค่าบริการ

หมายถึง ราคาที่ใช้สำหรับการขนส่งผู้โดยสารจากสนามบินต้นทางไปยังสนามบินปลายทาง ค่าบริการอาจรวมถึงบางช่วงของการขนส่งที่ให้บริการโดยพันธมิตรที่ไม่ใช่สายการบิน ภายใต้สัญญาความร่วมมือกับเรา ในกรณีที่ค่าบริการอาจรวมถึงบริการอื่น ๆ ผู้โดยสารจะได้รับการแจ้งเกี่ยวกับบริการเหล่านั้นและเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องในขณะที่ทำการซื้อบัตรโดยสาร

ค่าบริการจะถูกเปิดเผยต่อสาธารณะตามกฎหมาย

5.2.     ภาษี และค่าธรรมเนียม

5.2.1.  ภาษี และค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ที่ได้รับการกำหนดจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือองค์กรที่มีอำนาจ หรือองค์กรที่ดูแลการปฏิบัติการของสนามบินจะไม่รวมอยู่ในค่าบริการหลัก ผู้โดยสารมีหน้าที่ต้องชำระภาษี และค่าธรรมเนียมต่าง ๆ เหล่านี้ให้กับเรา - ผู้แทนของหน่วยงานเหล่านั้น เมื่อซื้อบัตรโดยสาร ผู้โดยสารจะได้รับการแจ้งเกี่ยวกับภาษี และค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ที่ไม่ได้รวมอยู่ในค่าบริการหลัก ส่วนใหญ่ภาษีเหล่านี้จะระบุแยกต่างหากบนบัตรโดยสาร

5.2.2.   หากมีการเปลี่ยนแปลงภาษี ค่าธรรมเนียม และ/หรือค่าธรรมเนียมเสริมหลังจากที่ผู้โดยสารซื้อบัตรโดยสารแล้ว เราจะแจ้งให้ผู้โดยสารทราบเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ตามเงื่อนไขที่เกี่ยวข้อง หากผู้โดยสารไม่ยินยอมชำระภาษี ค่าธรรมเนียม และค่าบริการเพิ่มเติมเหล่านี้ก่อนออกเดินทาง ผู้โดยสารสามารถดำเนินการขอคืนเงินค่าบัตรโดยสารตามข้อ 11 ของเงื่อนไขการขนส่งฉบับนี้

5.3.      ค่าบริการเสริมและค่าธรรมเนียมเสริม

ค่าบริการเสริมและค่าธรรมเนียมเสริมที่เรียกเก็บโดยเรา หรือสายการบินอื่น

ค่าบริการเสริมอาจรวมถึงค่าบริการน้ำมัน ค่าบริการดูแลระบบ ค่าบริการขายบัตร ค่าประกันภัย

ค่าธรรมเนียมเสริมอาจรวมถึงค่าธรรมเนียมการเปลี่ยนแปลงบัตรโดยสาร ค่าธรรมเนียมการดำเนินการบริการ ค่าธรรมเนียมการไม่แสดงตัว

รายละเอียดเกี่ยวกับประเภทของค่าบริการเสริมและค่าธรรมเนียมเสริมเราได้เปิดเผยต่อสาธารณะตามที่กฎหมายกำหนด

ผู้โดยสารมีหน้าที่ชำระค่าบริการเสริมและค่าธรรมเนียมเสริม ณ เวลาที่ซื้อบัตร

5.4.      ค่าบริการทั้งหมด

ค่าบริการทั้งหมดรวมถึงจำนวนเงินทั้งหมดที่ผู้โดยสารต้องชำระสำหรับการซื้อบัตรโดยสาร ประกอบด้วยค่าบริการ ค่าภาษี และ ค่าบริการเสริม ค่าธรรมเนียมเสริม

5.5       ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

การเปลี่ยนแปลงช่วงการเดินทางภายในเส้นทาง หรือวันที่เดินทางตามคำร้องขอของผู้โดยสาร อาจส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงอัตราค่าบริการที่บังคับใช้ และก่อให้เกิดภาระภาษี ค่าธรรมเนียม ค่าบริการ และค่าบริการเสริม ค่าธรรมเนียมเสริมอื่น ๆ ที่เพิ่มขึ้น ผู้โดยสารมีหน้าที่รับผิดชอบในการชำระค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมดังกล่าว

5.6.      ชำระค่าบริการทั้งหมด

เราไม่รับผิดชอบในการขนส่งและมีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธการขนส่งผู้โดยสารและสัมภาระหากผู้โดยสารไม่ได้ชำระค่าบริการทั้งหมด

5.7.     สกุลเงินที่ใช้ในการชำระเงิน

ค่าบริการ ภาษี ค่าธรรมเนียม ค่าบริการ ค่าบริการเสริมและค่าธรรมเนียมเสริมจะต้องชำระในสกุลเงินของประเทศที่ออกบัตร (โดยสำหรับบัตรโดยสารที่ออกในเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของเรา จะเป็นสกุลเงินของประเทศ/ภูมิภาคที่ผู้โดยสารเลือกในตอนเข้าถึงเว็บไซต์ ยกเว้นกรณีที่เราหรือตัวแทนที่ได้รับมอบหมายระบุให้ใช้สกุลเงินอื่น ๆ ณ เวลาชำระ หรือก่อนหน้านั้น (ตัวอย่างเช่น: สาเหตุที่สกุลเงินท้องถิ่นไม่สามารถแลกเปลี่ยนได้) เราอาจพิจารณายอมรับการชำระเงินด้วยสกุลเงินอื่นตามที่เห็นสมควร ทั้งนี้ต้องเป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

ข้อที่ 6 การสำรองที่นั่ง

6.1.      เงื่อนไขการสำรองที่นั่ง

6.1.1.   เราหรือตัวแทนที่ได้รับมอบหมายจะทำการจองสำหรับผู้โดยสาร เมื่อมีการร้องขอ เราจะให้ข้อมูลประวัติการจองแก่ผู้โดยสาร

ในกรณีที่ผู้โดยสารทำการจองโดยตรงที่สำนักงานสาขา หรือผ่านตัวแทนที่ได้รับมอบหมาย หรือผ่านเว็บไซต์ แอปพลิเคชันบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ หรือศูนย์บริการลูกค้าของเรา ข้อมูลการจองจะถูกบันทึกไว้ในระบบสำรองที่นั่งของเรา และบัตรโดยสารหลังจากออกแล้วจะถูกส่งไปยังที่อยู่อีเมลที่ผู้โดยสารได้ลงทะเบียนไว้ในประวัติการจอง หากผู้โดยสารร้องขอ บัตรโดยสารที่ถูกต้องจะต้องแสดงหมายเลขบัตรโดยสารและสถานะการยืนยันที่นั่งของเที่ยวบิน หากผู้โดยสารหรือตัวแทนที่ได้รับมอบหมายจะทำการจองไม่สำเร็จ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลทางวัตถุวิสัยหรืออัตวิสัย (เช่น ความผิดพลาดของระบบ หรือการกรอกข้อมูลไม่ครบถ้วนตามที่กำหนด) และไม่สามารถสร้างประวัติการจอง (ไม่มีการสร้างรหัสประวัติการจอง) ผู้โดยสารจะถือว่าไม่มีการสำรองที่นั่งที่ถูกต้องในระบบของเรา ในกรณีดังกล่าว ผู้โดยสารหรือตัวแทนที่ได้รับมอบหมายต้องติดต่อสำนักงานสาขาของเราหรือศูนย์บริการลูกค้าเพื่อขอรับความช่วยเหลือ

6.1.2.  ค่าบริการบางประเภทอาจมีเงื่อนไขจำกัดหรือไม่อนุญาตให้ผู้โดยสารเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกการจองที่นั่ง ผู้โดยสารควรตรวจสอบเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องกับค่าบริการที่เลือก ทั้งนี้ เราไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาดของผู้โดยสารที่ไม่ได้ตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว

6.2.      ระยะเวลาการซื้อบัตรโดยสาร

ประวัติการจองของผู้โดยสาร จะระบุระยะเวลาสำหรับการชำระเงินและการออกบัตรโดยสาร และข้อมูลดังกล่าวจะถูกแจ้งให้ผู้โดยสารทราบในขณะทำการจอง หากพ้นระยะเวลาดังกล่าวแล้ว ผู้โดยสารไม่ดำเนินการชำระเงินหรือไม่แจ้งหมายเลขบัตรโดยสารที่ได้ซื้อไว้ก่อนหน้านี้เพื่ออัปเดตข้อมูล ระบบจะยกเลิกประวัติการจองโดยอัตโนมัติ

6.3.      ข้อมูลส่วนบุคคล

เราเก็บรวบรวม ประมวลผล และจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของผู้โดยสารเพื่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินการตามสัญญาการขนส่ง ทั้งนี้ เราปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (General Data Protection Regulation - GDPR) ของสหภาพยุโรป (EU) อย่างเคร่งครัด สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม และก่อนที่จะทำการยืนยันหรือดำเนินการจองของผู้โดยสารต่อไป โปรดศึกษาข้อมูลจาก นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ของสายการบินเวียดนาม

6.4.      การจัดที่นั่ง

6.4.1.   เราจะจัดที่นั่งให้เหมาะสมสำหรับผู้โดยสารที่ต้องการความช่วยเหลือตามที่กฎหมายกำหนด

6.4.2.   เราจะพยายามจัดที่นั่งตามคำขอของผู้โดยสาร อย่างไรก็ตาม เราไม่สามารถรับประกันที่นั่งเฉพาะเจาะจงได้ เรามีสิทธิ์ในการจัดที่นั่งหรือเปลี่ยนแปลงที่นั่งใหม่ได้ทุกเวลา แม้ในกรณีที่ผู้โดยสารขึ้นเครื่องแล้ว หากเห็นว่าจำเป็นเพื่อความปลอดภัย การปฏิบัติตามกฎระเบียบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง หรือเนื่องจากเหตุสุดวิสัย หากผู้โดยสารไม่นั่งในที่นั่งที่ได้จัดไว้ให้ในกรณีดังกล่าว เราอาจปฏิเสธการขนส่งผู้โดยสารได้

6.5.      ค่าธรรมเนียมการไม่แสดงตัว (No Show)

Tเว้นแต่กรณีที่อัตราค่าบริการที่ใช้มีเงื่อนไขจำกัดไม่สามารถขอคืนเงินหรือเปลี่ยนแปลงได้ ผู้โดยสารอาจต้องชำระค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม หากผู้โดยสารไม่เดินทางตามที่กำหนดไว้ในบัตรโดยสาร และไม่ได้ดำเนินการขอคืนเงินหรือเปลี่ยนแปลงบัตรโดยสารล่วงหน้าอย่างน้อย 3 ชั่วโมงก่อนเวลาที่ระบุว่าเครื่องออก ในเที่ยวบินที่ผู้โดยสารได้ทำการจองไว้ อัตราค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมดังกล่าวจะถูกประกาศโดยเราตามที่กฎหมายกำหนด และได้รับการยืนยันจากเราในขณะที่เกิดรายการเรียกเก็บ

6.6.      บริการพิเศษ

6.6.1.  เราจะพยายามให้บริการพิเศษตามคำขอของผู้โดยสารในระหว่างการจอง ตามความสามารถในการให้บริการของเรา หากเราไม่สามารถให้บริการพิเศษตามคำขอได้ เราจะแจ้งให้ผู้โดยสารทราบ ผู้โดยสารจะได้รับการยืนยันการขอบริการพิเศษทันที หรือหลังจากที่เราตรวจสอบเงื่อนไขการขนส่งหรือเมื่อผู้โดยสารดำเนินการเสร็จสิ้นตามข้อกำหนดในการยอมรับการขนส่ง

หากผู้โดยสารต้องการบริการพิเศษ ณ สนามบิน เราจะตรวจสอบความพร้อมในการให้บริการและแจ้งให้ผู้โดยสารทราบถึงความสามารถในการให้บริการ เมื่อเราไม่สามารถให้บริการพิเศษตามคำขอได้ เราจะไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียหรือค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์ดังกล่าว

6.6.2.  หากผู้โดยสารมีความยากลำบากในการเคลื่อนไหวและต้องการความช่วยเหลือพิเศษใด ๆ ผู้โดยสารต้องแจ้งให้เราทราบในระหว่างการจอง

6.6.3.  หากผู้โดยสารมีความยากลำบากในการเคลื่อนไหว เราจะขนส่งผู้โดยสารหากเราสามารถจัดเตรียมเงื่อนไขที่จำเป็นเพื่อรองรับความต้องการพิเศษของผู้โดยสารได้ หากผู้โดยสารไม่ได้แจ้งให้เราทราบล่วงหน้าเกี่ยวกับการต้องการบริการพิเศษ เราจะพยายามให้บริการตามคำขอของผู้โดยสารในขอบเขตที่สามารถทำได้

6.6.4.  เราอาจขอให้ผู้โดยสารมีผู้ร่วมเดินทางด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย หรือหากผู้โดยสารไม่สามารถอพยพออกจากเครื่องบินได้ด้วยตัวเอง หรือไม่สามารถเข้าใจคำแนะนำด้านความปลอดภัยบนเครื่องบินได้

6.6.5.  เราขอสงวนสิทธิ์ในการไม่รับขนส่งผู้โดยสารที่จำเป็นต้องนอนบนเปลหามในเที่ยวบินใด ๆ

6.6.6.  ผู้โดยสารอาจต้องชำระค่าบริการสำหรับบริการพิเศษบางประเภทของเรา อัตราค่าบริการดังกล่าวจะได้รับการประกาศเปิดเผยตามที่กฎหมายกำหนด และได้รับการยืนยันจากเราในขณะที่ผู้โดยสารทำการจองบริการนั้น

6.6.7.  การรับขนส่งเด็กที่เดินทางโดยไม่มีผู้ใหญ่ร่วมเดินทาง ผู้โดยสารที่มีความพิการ ผู้โดยสารที่เจ็บป่วย สตรีมีครรภ์ หรือผู้โดยสารอื่นที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ อาจขึ้นอยู่กับการประสานงานล่วงหน้ากับเรา และต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดว่าด้วยการขนส่งที่เราได้ประกาศเปิดเผยตามที่กฎหมายกำหนด

6.7.      บริการในเที่ยวบิน

6.7.1.  เราจะให้บริการอุปกรณ์ต่าง ๆ โปรแกรมความบันเทิงบนเครื่องบิน อาหาร หรือบริการอื่น ๆ บนเครื่องบิน ขึ้นอยู่กับความสามารถในการให้บริการและระยะเวลาในการเดินทางของเที่ยวบิน ผู้โดยสารอาจต้องชำระค่าบริการสำหรับบริการบางรายการที่ให้บริการบนเครื่องบิน อัตราค่าบริการดังกล่าวจะได้รับการประกาศเปิดเผยตามที่กฎหมายกำหนด และได้รับการยืนยันจากเราในขณะที่ผู้โดยสารทำการจองบริการนั้น

6.7.2.  ในกรณีที่เราไม่สามารถให้บริการที่ผู้โดยสารได้ชำระเงินไว้แล้ว เราจะแจ้งให้ผู้โดยสารทราบ และจะดำเนินการตามหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตามที่เราได้ประกาศเปิดเผยไว้ตามที่กฎหมายกำหนด

6.8.     การยกเลิกที่นั่งสำหรับเที่ยวบินถัดไป

           หากผู้โดยสารไม่แจ้งล่วงหน้าให้เราทราบถึงการไม่ใช้ที่นั่งในช่วงการเดินทาง หรือละเว้นการเดินทางตามที่ระบุไว้ในข้อ 3.3.5 ของข้อบังคับการขนส่งฉบับนี้ เราขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกการจองสำหรับช่วงการเดินทางถัดไป อย่างไรก็ตาม หากผู้โดยสารแจ้งล่วงหน้า เราจะยังคงรักษาการจองสำหรับช่วงการเดินทางถัดไปไว้ให้

ข้อที่ 7 ขั้นตอนการขึ้นเครื่อง

7.1.     ผู้โดยสารต้องมาถึงที่เคาน์เตอร์เช็คอินและประตูทางออกเครื่องบินภายในเวลาที่กำหนด เพื่อให้สามารถดำเนินการตามขั้นตอนที่จำเป็นก่อนที่เครื่องบินจะออกเดินทาง เรามีสิทธิ์ในการยกเลิกการจองที่นั่งของผู้โดยสารหากผู้โดยสารไม่ปฏิบัติตามเวลาการเช็คอินสุดท้ายของเที่ยวบิน ผู้โดยสารต้องทราบข้อกำหนดเกี่ยวกับเวลาที่ต้องมาถึงที่เคาน์เตอร์เช็คอิน ข้อกำหนดนี้ได้รับการประกาศโดยเราตามที่กฎหมายกำหนด

ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขในทางปฏิบัติ เราอาจให้บริการอำนวยความสะดวกในการเช็คอินด้วยตนเอง เงื่อนไขเฉพาะและคำแนะนำเกี่ยวกับบริการอำนวยความสะดวกนี้ ได้รับการประกาศโดยเราตามที่กฎหมายกำหนด สำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ ผู้โดยสารที่ทำการเช็คอินด้วยตนเองจำเป็นต้องมาปรากฏตัวที่เคาน์เตอร์ในช่วงเวลาทำการเช็คอินของเที่ยวบินนั้น และต้องแสดงเอกสารประจำตัวตามที่ระบุไว้ในข้อ 14.2 ของเงื่อนไขการขนส่งฉบับนี้

7.2.      ผู้โดยสารต้องอยู่ที่ประตูทางออกขึ้นเครื่องไม่เกินเวลาที่ระบุไว้บนบัตรขึ้นเครื่องของผู้โดยสาร

7.3.     หากผู้โดยสารไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดข้างต้น หรือไม่แสดงเอกสารการเดินทางอย่างครบถ้วนตามข้อ 14.2 ของเงื่อนไขการขนส่งฉบับนี้ หรือไม่พร้อมสำหรับการออกเดินทาง เรามีสิทธิ์ยกเลิกที่นั่งของผู้โดยสารได้

7.4.      เราจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายหรือค่าใช้จ่ายใด ๆ ที่เกิดขึ้นจากการที่ผู้โดยสารไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดในข้อ 7 ของเงื่อนไขการขนส่งฉบับนี้

ข้อที่ 8 การปฏิเสธและข้อจำกัดในการขนส่ง

8.1.      การปฏิเสธการขนส่ง

เรามีสิทธิ์ปฏิเสธการขนส่งผู้โดยสารหรือสัมภาระ (แม้ว่าผู้โดยสารจะมีบัตรโดยสารหรือบัตรขึ้นเครื่องที่ยังใช้ได้) ในกรณีดังต่อไปนี้:

8.1.1.  การปฏิเสธการขนส่งเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อบังคับ คำสั่ง หรือข้อกำหนดของประเทศหรือดินแดนที่เครื่องบินออกเดินทาง มุ่งหน้าถึง หรือผ่านทาง

8.1.2.  ผู้โดยสารปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็น และ/หรือข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ร้องขอ เพื่อให้เราสามารถให้บริการตามคำขอของผู้โดยสาร

8.1.3.   กรณีการปฏิเสธการขนส่งตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายการบินพลเรือนของเวียดนาม ได้แก่:

8.1.3.1.     เนื่องจากสภาพสุขภาพของผู้โดยสาร ที่บริษัทเห็นว่าการขนส่งหรือการขนส่งต่ออาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้โดยสารเอง ผู้อื่นบนเครื่องบิน หรือเป็นอันตรายต่อเที่ยวบิน

8.1.3.2.     เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรคติดต่อ

8.1.3.3.     ผู้โดยสารไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัยทางการบิน ความมั่นคงทางการบิน หรือการปฏิบัติการด้านการขนส่งทางอากาศ

8.1.3.4.     ผู้โดยสารมีพฤติกรรมก่อความไม่สงบ ข่มขู่ความปลอดภัยในการบิน หรือกระทบต่อชีวิต สุขภาพ หรือทรัพย์สินของผู้อื่น

8.1.3.5.     ผู้โดยสารอยู่ในสภาพมึนเมาจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือสารเสพติดอื่น ๆ และไม่สามารถควบคุมพฤติกรรมของตนเองได้

8.1.3.6.     ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง

8.1.3.7.     ตามคำร้องขอของหน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจ

8.1.4.  ผู้โดยสารต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษจากเราแต่ไม่มีการจัดเตรียมล่วงหน้า

8.1.5.  ผู้โดยสารไม่ยินยอมให้ตรวจค้นร่างกายหรือสัมภาระ หรือแม้ผู้โดยสารยินยอมให้ตรวจค้นแต่ไม่ตอบคำถามด้านความปลอดภัยอย่างน่าพอใจที่เคาน์เตอร์เช็คอินหรือที่ประตูขึ้นเครื่อง หรือผู้โดยสารไม่ผ่านการวิเคราะห์/ประเมินความปลอดภัยจากประวัติ หรือผู้โดยสารปลอมแปลงหรือถอดตราประทับ/ฉลากตรวจสอบความปลอดภัยใด ๆ บนสัมภาระหรือบัตรขึ้นเครื่อง

8.1.6.  ผู้โดยสารยังไม่ชำระค่าปรับ ค่าชดเชย ต้นทุนสะสม และภาระผูกพันทางการเงินอื่นใดที่ต้องชำระให้แก่เรา

8.1.7.  ผู้โดยสารที่ไม่มีเอกสารเดินทางที่ถูกต้อง อาจพยายามเข้าสู่ประเทศที่เป็นจุดแวะพักระหว่างทาง หรือเข้าสู่ประเทศปลายทางโดยไม่มีเอกสารครบถ้วนตามข้อกำหนด หรือทำลายเอกสารของตนระหว่างเที่ยวบิน หรือปฏิเสธที่จะมอบเอกสารให้กับเจ้าหน้าที่ลูกเรือเมื่อได้รับคำขอ

8.1.8.  ผู้โดยสารแสดงบัตรโดยสารที่ (i) ไม่ถูกต้อง หรือ (ii) ถูกแจ้งว่าสูญหายหรือถูกขโมย หรือ (iii) เป็นบัตรโดยสารปลอม หรือ (iv) ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นเจ้าของชื่อที่ระบุไว้ในช่อง "ชื่อผู้โดยสาร" ในกรณีดังกล่าว เรามีสิทธิ์ยึดบัตรโดยสารนั้น

8.1.9.  ผู้โดยสารไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดในข้อ 3.3 เกี่ยวกับการใช้เอกสารการเดินทางตามลำดับอย่างถูกต้อง

8.2.      เรามีสิทธิ์ออกประกาศปฏิเสธการขนส่ง ไม่ว่าจะเป็นแบบชั่วคราวหรือถาวร สำหรับผู้โดยสารในทุกเที่ยวบินที่เราให้บริการ สำหรับกรณีที่ระบุไว้ในข้อ 8.1 ของเงื่อนไขการขนส่งฉบับนี้ ประกาศปฏิเสธการขนส่งยังรวมถึงคำสั่งให้ผู้โดยสารไม่สามารถซื้อบัตรโดยสาร หรือขอให้บุคคลอื่นซื้อแทน หากผู้โดยสารยังคงพยายามใช้บริการขนส่งของเราในช่วงที่ประกาศปฏิเสธการขนส่งยังมีผลอยู่ เราจะปฏิเสธการขนส่ง

8.3.      ความรับผิดชอบในกรณีการปฏิเสธการขนส่ง

8.3.1.  เราจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายหรือการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดขึ้นจากการที่ผู้โดยสารถูกปฏิเสธการขนส่งหรือไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางต่อ ตามข้อกำหนดในข้อดังกล่าว ในกรณีที่ผู้โดยสารถูกปฏิเสธการขนส่งตามข้อ 8.1.3 ข้างต้น ผู้โดยสารจะได้รับการคืนเงินบัตรโดยสารหรือจำนวนเงินเทียบเท่าสำหรับส่วนที่ยังไม่ได้ใช้ หลังจากหักค่าธรรมเนียมและค่าปรับ (ถ้ามี) ตามเงื่อนไขของอัตราค่าบริการที่ใช้บังคับ

8.3.2.  ในทางกลับกัน เรามีสิทธิ์เรียกร้องให้ผู้โดยสารชดเชยค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับข้อร้องเรียนหรือความเสียหาย ซึ่งรวมถึงค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการเปลี่ยนเส้นทางเที่ยวบิน อันเป็นผลมาจากพฤติกรรม การกระทำ หรือสภาพของผู้โดยสารตามที่ระบุไว้ในข้อ 8.1 และผลที่เกิดจากการปฏิเสธการขนส่งหรือการไม่อนุญาตให้เดินทางต่อ

8.4.     ข้อจำกัดด้านน้ำหนัก/ที่นั่งของเครื่องบิน

8.4.1.  หากจำนวนผู้โดยสารเกินขีดจำกัดที่กำหนดของเครื่องบิน เราอาจจัดหาเที่ยวบินอื่นหรือรูปแบบการขนส่งอื่นที่เหมาะสมตามความสามารถในการให้บริการของเรา และโดยมีข้อตกลงร่วมกับผู้โดยสาร

8.4.2.  ความรับผิดชอบต่อผู้โดยสารที่มีการยืนยันที่นั่งแต่ไม่ได้รับการขนส่ง จะดำเนินการตามข้อ 10 ของเงื่อนไขการขนส่งนี้

8.4.3.  ความรับผิดชอบของเราต่อสัมภาระที่ไม่ได้รับการขนส่งของผู้โดยสารที่มีการยืนยันที่นั่งในเที่ยวบินแล้วและมาถึงที่เคาน์เตอร์เช็คอินตามสถานที่ที่กำหนด จะดำเนินการตามข้อกำหนดในข้อ 9.6.3 ของเงื่อนไขการขนส่งนี้

8.5.      สุนัขช่วยเหลือสำหรับผู้พิการ

สุนัขช่วยเหลือ หมายถึงสุนัขไม่จำกัดสายพันธุ์ที่ผ่านการฝึกอบรมและได้รับใบรับรองเพื่อปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์ของบุคคลที่มีความบกพร่องทางร่างกาย ประสาทสัมผัส จิตใจ หรือความบกพร่องทางสติปัญญาอื่น ๆ

การขนส่งสุนัขช่วยเหลือต้องเป็นไปตามข้อกำหนดและระเบียบของประเทศต้นทาง ประเทศที่แวะพัก และประเทศปลายทาง

เราอาจปฏิเสธการขนส่งสุนัขช่วยเหลือของผู้โดยสาร หากเกิดกรณีใดกรณีหนึ่งดังต่อไปนี้:

8.5.1.   ตำแหน่งของสุนัขช่วยเหลือบนเครื่องบินกีดขวางทางเดิน หรือพื้นที่ที่ตามระเบียบด้านความปลอดภัยจะต้องไม่มีสิ่งกีดขวาง

8.5.2.   การขนส่งสุนัขช่วยเหลืออาจก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัย เนื่องจากขนาดหรือน้ำหนักของสุนัขใหญ่เกินไปสำหรับการขนส่งในห้องโดยสาร

8.5.3.   สุนัขช่วยเหลือแสดงพฤติกรรมที่เป็นภัยคุกคามโดยตรงต่อสุขภาพหรือความปลอดภัยของผู้โดยสารอื่นบนเครื่องบิน

8.5.4.   ไม่มีหลักฐานเพียงพอแสดงว่าสุนัขได้รับการฝึกอบรมอย่างครบถ้วนและได้รับการรับรองว่าเป็นสุนัขช่วยเหลือ

ข้อที่ 9 สัมภาระ

9.1.      สัมภาระฟรี

จำนวนสัมภาระที่ผู้โดยสารสามารถนำขึ้นเครื่องได้ฟรีขึ้นอยู่กับประเภทอัตราค่าบริการที่ผู้โดยสารชำระและระบุไว้ในบัตรโดยสาร สัมภาระฟรีต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขและข้อจำกัดต่างๆ ตามประกาศที่เราเผยแพร่ตามกฎหมาย

9.2.      สัมภาระที่เสียค่าธรรมเนียม

ผู้โดยสารต้องชำระค่าธรรมเนียมสำหรับสัมภาระที่เกินจากส่วนที่ได้รับสิทธิ์ฟรี ตามวิธีการที่เราได้เผยแพร่ตามกฎหมาย

9.3.      ข้อห้ามและข้อจำกัดในการขนส่ง

9.3.1.   ผู้โดยสารจะต้องไม่พกพาสิ่งของต่อไปนี้ไว้ในสัมภาระ:

9.3.1.1.    สิ่งของที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่ออากาศยาน บุคคล ทรัพย์สินบนอากาศยาน หรือสิ่งของที่ถูกห้าม/จำกัดการขนส่งติดตัวหรือในสัมภาระบนอากาศยาน (i) ระบุไว้ในคู่มือทางเทคนิคเกี่ยวกับการขนส่งสินค้าอันตรายอย่างปลอดภัยของ ICAO และระเบียบสินค้าอันตรายของ IATA (ii) ตามข้อบังคับอื่นของหน่วยงานผู้มีอำนาจและ (iii) ตามข้อกำหนดที่สายการบินของเราประกาศใช้ตามที่กฎหมายกำหนด;

9.3.1.2.     วัตถุที่ห้ามขนส่งตามข้อกำหนดที่มีผลบังคับใช้ของประเทศและดินแดนที่เครื่องบินออกเดินทาง มุ่งหน้าถึง หรือบินผ่าน

9.3.2.  สิ่งของอันตราย (รวมถึงอาวุธ กระสุน เครื่องมือช่วยเหลือ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากหน่วยงานผู้มีอำนาจ; วัตถุระเบิด; วัตถุไวไฟ; สิ่งของที่อาจใช้เป็นอาวุธโจมตีคุกคาม และวัตถุอันตรายอื่น ๆ) หากได้รับการยอมรับให้ขนส่ง จะต้องขนส่งเป็นสัมภาระเช็คอินเท่านั้น ตามข้อกำหนดที่สายการบินของเราประกาศใช้ตามที่กฎหมายกำหนด กระสุนปืนต้องถูกถอดออกจากปืนเพื่อรับประกันความปลอดภัยในการขนส่ง กระสุนปืนต้องถูกเก็บในกล่องกระสุน หรือในบรรจุภัณฑ์ที่ถูกต้องตามข้อกำหนด ข้อบังคับทั้งหมดเกี่ยวกับการขนส่งอาวุธ กระสุน และเครื่องมือช่วยเหลือของหน่วยงานท่าอากาศยานที่เกี่ยวข้อง ICAO IATA และของเราที่ประกาศใช้ตามกฎหมาย จะต้องได้รับการปฏิบัติตาม

9.3.3.  เราขอแนะนำผู้โดยสารไม่ควรเก็บสิ่งของที่เปราะบาง เสียหายง่าย (เช่น ของสด อาหารที่เน่าเสียง่าย…) งานศิลปะ กล้องถ่ายวิดีโอ กล้องถ่ายรูป เงิน เครื่องประดับ โลหะมีค่า อัญมณี คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอกสารที่มีมูลค่าแลกเปลี่ยนเป็นเงิน หลักทรัพย์ เอกสารการเจรจา สัญญา เอกสารทางธุรกิจ ตัวอย่างสินค้า เอกสารประจำตัว ของมีค่าและ/หรือสิ่งของมีค่าอื่น ๆ ไว้ในสัมภาระเช็คอิน

9.3.4.  เราจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใด ๆ ที่ผู้โดยสารได้รับ หากผู้โดยสารยังคงเก็บสิ่งของที่ระบุไว้ในข้อ 9.3 ไว้ในสัมภาระเช็คอินของตน ไม่ว่าเราจะทราบหรือไม่ก็ตาม

9.4.     สิทธิในการปฏิเสธการขนส่งสัมภาระ

9.4.1.  เรามีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธการขนส่งสัมภาระที่มีสิ่งของตามที่ระบุไว้ในข้อ 9.3 ของเงื่อนไขการขนส่งนี้ และอาจปฏิเสธที่จะขนส่งสัมภาระต่อไปหากเราตรวจพบสิ่งของดังกล่าวในสัมภาระ

9.4.2.  เพื่อความปลอดภัยเหตุผลด้านความปลอดภัยเราอาจปฏิเสธที่จะนำสัมภาระและวัตถุติดตัวไปด้วย เพื่อเหตุผลด้านความปลอดภัยและความมั่นคง เราอาจปฏิเสธการขนส่งสัมภาระและสิ่งของใด ๆ เราจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายหรือความไม่สะดวกใด ๆ ที่ผู้โดยสารได้รับอันเนื่องมาจากการปฏิเสธการขนส่งดังกล่าว

9.4.3.  เราสามารถปฏิเสธการรับสัมภาระเช็คอินหากสัมภาระนั้นไม่ได้ถูกบรรจุในกระเป๋า กระเป๋าเดินทาง หรือกล่องที่เหมาะสมเพื่อรับประกันความปลอดภัยในระหว่างการขนส่งและการจัดเก็บตามปกติ

9.4.4.  เราและตัวแทนของเราไม่ทำการส่งสัมภาระตรงไปยังสายการบินอื่นที่เราไม่ได้ลงนามในสัญญาการขนส่งแบบเชื่อมต่อกับพวกเขา ดังนั้น หากผู้โดยสารมีความประสงค์ที่จะเดินทางกับสายการบินอื่นไปยังสนามบินเพื่อเชื่อมต่อกับเที่ยวบินของเรา หรือเดินทางด้วยเที่ยวบินของเราไปยังสนามบินเพื่อเชื่อมต่อกับเที่ยวบินของสายการบินอื่น ผู้โดยสารต้องตรวจสอบและยืนยันล่วงหน้าว่าเราได้ทำสัญญาการขนส่งแบบเชื่อมต่อกับสายการบินนั้นหรือไม่ ในกรณีที่เราไม่ได้ทำสัญญาการขนส่งแบบเชื่อมต่อกับสายการบินนั้น ผู้โดยสารจะต้องรับผิดชอบในการรับสัมภาระของตนเอง ดำเนินการทำเอกสารใหม่สำหรับสัมภาระ และรับบัตรสัมภาระสำหรับเที่ยวบินถัดไป เราไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นกับผู้โดยสารและสัมภาระของผู้โดยสารในเที่ยวบินที่เราไม่ได้ให้บริการ

9.5.      สิทธิในการตรวจค้น

9.5.1.   เรามีสิทธิ์ขอให้ผู้โดยสารอนุญาตให้มีการตรวจค้นด้านความปลอดภัยของบุคคลรวมทั้งสัมภาระของผู้โดยสาร หากผู้โดยสารไม่แสดงตน สัมภาระของผู้โดยสารอาจถูกตรวจค้นโดยที่ท่านไม่อยู่ เพื่อตรวจสอบว่าผู้โดยสารได้พกพา หรือสัมภาระของผู้โดยสารมีสิ่งของใดที่ระบุไว้ในข้อ 9.3 หรือไม่ หากผู้โดยสารปฏิเสธการตรวจค้นดังกล่าว เราอาจปฏิเสธที่จะรับขนส่งผู้โดยสารและสัมภาระของผู้โดยสาร ในกรณีที่การตรวจค้นทำให้เกิดความเสียหายต่อผู้โดยสารหรือสัมภาระของผู้โดยสาร เนื่องจากการใช้เครื่องสแกน เราจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายดังกล่าว เว้นแต่เป็นเพราะความผิดหรือความประมาทของเรา

9.5.2.  เราจะไม่รับผิดชอบต่อสิ่งของในตัวผู้โดยสาร หรือในสัมภาระของผู้โดยสารที่ถูกยึดโดยหน่วยงานผู้มีอำนาจตามข้อกำหนดระหว่างประเทศ หรือหน่วยงานในท้องถิ่น ไม่ว่าสิ่งของดังกล่าวจะถูกเก็บรักษาหรือทำลายในภายหลังก็ตาม

9.6.      สัมภาระเช็คอิน

9.6.1.   เรามีหน้าที่รับผิดชอบในการจัดเก็บและติดป้ายสัมภาระสำหรับสัมภาระเช็คอินของผู้โดยสารแต่ละชิ้นที่ทำการเช็คอินและส่งมอบให้เรา

9.6.2.   สัมภาระเช็คอินต้องมีชื่อของผู้โดยสารหรือสิ่งแสดงตัวตนอื่น ๆ ติดอยู่

9.6.3.   สัมภาระเช็คอินกับผู้โดยสารจะได้รับการขนส่งโดยเครื่องบินลำเดียวกัน หากการขนส่งดังกล่าวไม่สามารถทำได้เนื่องจากเหตุผลด้านความปลอดภัย ความมั่นคง การบรรทุกไม่เพียงพอ หรือไม่มีพื้นที่จัดเก็บ เราจะขนส่งสัมภาระนั้นในเที่ยวบินอื่น หรือขนส่งสัมภาระในรูปแบบใหม่ที่เหมาะสมและโดยความตกลงกับผู้โดยสาร ในกรณีนี้ สัมภาระเช็คอินจะถูกขนส่งและส่งคืนให้ผู้โดยสารตามที่อยู่ที่ลงทะเบียน เว้นแต่ผู้โดยสารจะต้องมาปรากฏตัวที่สนามบินเพื่อดำเนินการตามพิธีการศุลกากรตามที่กฎหมายปัจจุบันกำหนด

9.6.4.   ข้อจำกัดสูงสุดสำหรับการยอมรับสัมภาระเช็คอินคือ 32 กก. (70 ปอนด์) สำหรับน้ำหนัก และ 203 ซม. สำหรับขนาดสามมิติ

สัมภาระเช็คอินที่มีน้ำหนักและขนาดเกินขีดจำกัดดังกล่าวจะถูกขนส่งได้ในกรณีที่ (i) ผู้โดยสารแจ้งล่วงหน้าและเรายอมรับในขณะสำรองที่นั่ง; หรือ (ii) ส่วนน้ำหนักที่เกินกว่าข้อกำหนดดังกล่าวถูกแยกและบรรจุใหม่เป็นชิ้นเล็กเมื่อทำการเช็คอิน

ไม่ว่าในกรณีใดก็ตามเราจะไม่รับผิดชอบต่อ: (i) ความเสียหายอันเนื่องมาจากการที่ผู้โดยสารไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดเรื่องน้ำหนักและขนาด ข้อกำหนดเรื่องการแยกและบรรจุใหม่ (ii) การปฏิเสธการขนส่งสัมภาระที่มีน้ำหนักและขนาดเกินกว่าที่กำหนด

9.7.      การสำแดงและการชำระค่าบริการสำหรับสัมภาระเช็คอินที่เป็นทรัพย์สินมีค่า

เราอาจรับขนส่งสัมภาระเช็คอินที่มีมูลค่าเกินขีดจำกัดความรับผิดชอบ หากผู้โดยสารสำแดงมูลค่าของสัมภาระและชำระค่าธรรมเนียมบริการสำหรับสัมภาระนั้นตามอัตราที่สายการบินของเราประกาศใช้ตามกฎหมาย การดำเนินการจะเป็นไปตามกฎหมาย การดำเนินการจะเป็นไปตามกฎหมาย ข้อบังคับปัจจุบันของประเทศหรือเขตปกครองที่เครื่องบินเดินทางออก เดินทางกลับ หรือเดินทางผ่าน

9.8.      สัมภาระถือขึ้นเครื่อง

9.8.1.  สัมภาระถือขึ้นเครื่องที่ผู้โดยสารนำขึ้นไปบนห้องโดยสารของอากาศยานต้องมีขนาดและน้ำหนักตามข้อกำหนดที่สายการบินของเราประกาศใช้ตามกฎหมาย หากสัมภาระถือขึ้นเครื่องของผู้โดยสารมีขนาดและ/หรือน้ำหนักเกินกำหนด หรือด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยหรือความสามารถในการจัดเก็บของชั้นโดยสารบนเครื่องบิน สัมภาระเหล่านั้นจะต้องขนส่งเป็นสัมภาระเช็คอิน

9.8.2.   สัมภาระที่เปราะบาง แตกหักง่าย เสียหายง่าย; สัมภาระที่มีมูลค่าสูง หรือที่ผู้โดยสารพิจารณาว่าไม่เหมาะสมที่จะเช็คอิน (เช่น: เครื่องดนตรี…); สัมภาระที่เกินกว่าน้ำหนักสัมภาระฟรีที่ได้รับอนุญาตจากสายการบินของเรา จะได้รับการยอมรับให้ขนส่งในห้องโดยสารของอากาศยานก็ต่อเมื่อผู้โดยสารได้แจ้งล่วงหน้าและได้รับความยินยอมจากเรา ค่าขนส่งสิ่งของดังกล่าวจะคิดแยกต่างหาก

9.9.      การจัดส่งสัมภาระ

9.9.1.   ผู้โดยสารจะต้องรับสัมภาระทันทีที่มีการขนส่งถึงถิ่นที่ปลายทางหรือ ณ ถิ่นที่แวะพักหลังจากที่เครื่องบินลงจอด หากผู้โดยสารไม่มารับสัมภาระเช็คอิน ภายในระยะเวลา สาม (3) เดือนนับจากวันที่มีการจัดส่งแล้ว เราอาจจะจัดการกับสัมภาระนั้น ๆ โดยไม่ต้องรับผิดชอบใด ๆ

9.9.2.   ผู้รับสัมภาระต้องเป็นผู้ที่มีชื่ออยู่บนบัตรสัมภาระ

9.9.3.   เราอาจขอให้ผู้โดยสารแสดงบัตรสัมภาระก่อนรับสัมภาระ เราจะส่งมอบสัมภาระให้ผู้โดยสารก็ต่อเมื่อผู้โดยสารสามารถพิสูจน์สิทธิ์ในการเป็นเจ้าของสัมภาระนั้นได้ ข้อมูลและเอกสารที่ใช้ในการพิจารณาความเป็นเจ้าของสัมภาระ ได้แก่: ชื่อผู้โดยสาร หมายเลขเที่ยวบิน วันที่เครื่องบินออก หมายเลขป้ายกำกับสัมภาระ จำนวนชิ้นสัมภาระ

9.9.4.   การที่ผู้โดยสารรับสัมภาระเช็คอินโดยไม่มีการร้องเรียน ณ จุดส่งมอบสัมภาระ ถือเป็นหลักฐานที่สมบูรณ์ว่าสัมภาระเช็คอินได้รับการส่งคืนโดยสมบูรณ์และเป็นไปตามสัญญาการขนส่ง

9.10.   สัตว์

เราตกลงที่จะรับขนส่งสัตว์เลี้ยงของผู้โดยสาร (สุนัข แมว และนก) ตามเงื่อนไขต่อไปนี้:

9.10.1.   สัตว์เลี้ยงต้องบรรจุในกรงที่เหมาะสมตามที่กำหนด พร้อมด้วยใบรับรองด้านสุขภาพและการฉีดวัคซีนที่ถูกต้อง มีใบอนุญาตการนำเข้าประเทศและเอกสารอื่น ๆ ที่ประเทศที่ปลายทางหรือประเทศที่เดินทางผ่านต้องการ การขนส่งอาจต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดอื่น ๆ ของสายการบินเพื่อให้การขนส่งเป็นไปอย่างปลอดภัย

9.10.2.  เนื่องจากความปลอดภัยด้านการขนส่ง เราจะไม่รับการขนส่งสัตว์เลี้ยงบางประเภท ข้อมูลเกี่ยวกับชนิดของสัตว์เลี้ยงที่ไม่รับขนส่งจะถูกประกาศใช้โดยเราตามที่กฎหมายกำหนด

9.10.3.  หากได้รับการยอมรับว่าเป็นสัมภาระ สัตว์เลี้ยงพร้อมกรงและอาหารที่นำมาด้วยจะไม่ถือเป็นสัมภาระฟรีของผู้โดยสาร แต่จะต้องคิดค่าบริการเป็นสัมภาระที่มีค่าใช้จ่ายแยกต่างหาก ตามข้อกำหนดในข้อ 9.2 ของเงื่อนไขการขนส่งนี้ สัตว์เลี้ยงจะต้องถูกขนส่งในกรงที่เหมาะสม ในห้องเก็บสัมภาระของอากาศยาน ยกเว้นตามที่ระบุไว้ในข้อ 9.10.6 และ 9.10.7 ของเงื่อนไขการขนส่งนี้

9.10.4.   เราตกลงที่จะขนส่งสัตว์เลี้ยง โดยผู้โดยสารจะต้องรับผิดชอบต่อสัตว์ดังกล่าวทั้งหมด เราจะไม่รับผิดชอบต่อการบาดเจ็บ สูญหาย เจ็บป่วย หรือเสียชีวิตของสัตว์ที่เราได้ตกลงที่จะขนส่ง เว้นแต่เกิดจากความประมาทของเรา

9.10.5.  เราจะไม่มีส่วนรับผิดชอบใด ๆ ต่อสัตว์ที่ไม่สามารถนำเข้าออก หรือขนส่งผ่านประเทศ รัฐ หรือเขตแดนใด ๆ

9.10.6.  โดยไม่กระทบต่อสัมภาระฟรีตามที่กำหนดโดยเราและประกาศใช้ตามกฎหมาย เราจะขนส่งสุนัขนำทาง (พร้อมกรง) สำหรับผู้พิการโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย

9.10.7.  สัตว์ที่ได้รับอนุญาตให้นำขึ้นไปบนห้องโดยสารจะต้องเป็นไปตามข้อกำหนดเกี่ยวกับน้ำหนัก ปริมาณ ขนาดและขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการจัดเรียง ชั้นบริการ และเส้นทาง ไม่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงออกจากกรงในระหว่างเที่ยวบิน ในกรณีที่พบว่า สัตว์เลี้ยงอาจส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารท่านอื่น ๆ หรือความปลอดภัยของเที่ยวบิน เราอาจขอให้ท่านย้ายสัตว์ลงไปยังใต้ท้องเครื่องบิน

9.10.8.   เราอาจจัดให้มีการขนส่งผู้โดยสารและสัตว์เลี้ยงในเที่ยวบินอื่น หากในขณะทำการเช็คอินสำหรับเที่ยวบินนั้น อากาศยานไม่สามารถขนส่งสัตว์มีชีวิตได้ แม้ว่าผู้โดยสารและสัตว์เลี้ยงจะได้รับการยืนยันในเที่ยวบินนั้นตั้งแต่เวลาสำรองที่นั่งแล้วก็ตาม

ข้อที่ 10  ตารางเวลาเที่ยวบินและเปลี่ยนแปลงตารางเวลาเที่ยวบิน

10.1.      ตารางเวลาเที่ยวบินและประเภทของอากาศยาน

10.1.1.   ตารางการบินและประเภทของอากาศยานที่แสดงในตารางบินของเราอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในช่วงเวลานับจากวันที่ประกาศจนถึงวันบินจริงของผู้โดยสาร การเปลี่ยนแปลงตารางการบินจะดำเนินการตามที่ระบุไว้ในข้อ 10.2 ของข้อกำหนดการขนส่งนี้

10.1.2.   ก่อนที่เราจะรับทำการสำรองที่นั่งของผู้โดยสาร เรา หรือตัวแทนจำหน่ายจะแจ้งให้ทราบถึงเวลาเที่ยวบินตามตารางบินในขณะนั้น และข้อมูลดังกล่าวจะปรากฏบนบัตรโดยสารของท่าน

              เราอาจจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนเวลาเที่ยวบินภายหลังการออกบัตรโดยสาร และ/หรือยกเลิก เปลี่ยนเส้นทาง หรือเปลี่ยนทิศทางการบิน เลื่อนเวลาบิน ทำให้เที่ยวบินล่าช้า เปลี่ยนเครื่องบิน หรือจุดแวะพัก หากพบว่ามีเหตุผลอันสมควรที่จะรองรับสถานการณ์ที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของเราตามคำขอของหน่วยงานผู้มีอำนาจและเพื่อความปลอดภัยหรือเหตุผลทางการค้า หากผู้โดยสารให้ข้อมูลการติดต่อกับเราไว้ เราจะพยายามแจ้งให้ท่านทราบเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวในขอบเขตความรับผิดชอบของเรา

10.2.      การเปลี่ยนแปลงกำหนดเวลาเที่ยวบิน

10.2.1.   เราจะใช้ทุกมาตรการที่จำเป็นเพื่อหลีกเลี่ยงความล่าช้าในการขนส่งผู้โดยสารและสัมภาระของผู้โดยสาร ในการใช้มาตรการเหล่านี้และเพื่อป้องกันการยกเลิกเที่ยวบิน ในบางกรณีที่จำเป็น เราอาจจัดเที่ยวบินอื่นโดยใช้เครื่องบินลำอื่น หรือสายการบินอื่นทดแทนได้

10.2.2.   ในกรณีที่เที่ยวบินล่าช้า ถูกยกเลิก ออกเดินทางก่อนกำหนด หรือผู้โดยสารไม่ได้รับการขนส่งตามแผน แล้วแต่กฎหมายที่ใช้บังคับ เราจะ:

10.2.2.1   ให้ข้อมูลและอัปเดตที่เหมาะสมแก่ผู้โดยสาร; พร้อมทั้งแสดงความขออภัย; จัดให้มีบริการอาหาร ที่พัก การเดินทาง และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องโดยตรงตามระยะเวลารอที่ท่าอากาศยาน (เช่น ค่าโทรศัพท์ การเดินทางภาคพื้น การเที่ยวชมเมืองตามผลกระทบ) และรับประกันคุณภาพการให้บริการผู้โดยสารที่ท่าอากาศยานตามที่กฎหมายกำหนด

10.2.2.2   ภายใต้ขอบเขตบริการของเรา ดำเนินการเปลี่ยนเส้นทางที่เหมาะสมให้แก่ผู้โดยสาร หรือเปลี่ยนเป็นเที่ยวบินอื่นเพื่อให้ผู้โดยสารไปถึงจุดหมายปลายทางสุดท้าย โดยยกเว้นเงื่อนไขเกี่ยวกับการเปลี่ยนเส้นทางหรือเที่ยวบิน และค่าธรรมเนียมในการเปลี่ยนบัตรโดยสาร (ถ้ามี); หรือ

                คืนเงินค่าบัตรโดยสารเต็มจำนวน หรือคืนเฉพาะส่วนที่ยังไม่ได้ใช้ ตามทางเลือกของผู้โดยสาร ณ ท่าอากาศยาน หรือที่สำนักงานตัวแทน สาขา หรือผู้แทนจำหน่ายที่ได้รับแต่งตั้ง หรือผ่านช่องทางการชำระเงินอื่นตามที่แจ้งแก่ผู้โดยสารในขณะยื่นคำขอ

10.2.2.3   ชดเชยล่วงหน้าเป็นเงินที่ไม่สามารถขอคืนได้แก่ผู้โดยสารที่ได้รับการยืนยันที่นั่งและมีบัตรโดยสารในเที่ยวบิน ตามข้อกำหนดของหน่วยงานที่มีอำนาจ (ถ้ามี);

10.2.2.4.   ปฏิบัติหน้าที่อื่น ๆ ตามที่หน่วยงานผู้มีอำนาจกำหนด (หากมี)

10.2.3   ในกรณีที่ไม่ได้เกิดจากความผิดของเรา ซึ่ง (i) เที่ยวบินล่าช้า หรือ (ii) ผู้โดยสารไม่ได้รับการขนส่ง หรือ (iii) เที่ยวบินถูกยกเลิก หรือ (iv) ผู้โดยสารได้รับการยืนยันที่นั่งแล้วแต่ไม่ได้รับการขนส่งและไม่ได้รับแจ้งการเปลี่ยนแปลงเวลาออกเดินทางก่อนกำหนด หรือไม่ยินยอมกับการเปลี่ยนแปลงเวลาออกเดินทางก่อนกำหนด: เราไม่มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามภาระผูกพันที่ระบุในข้อ 10.2.2.2, 10.2.2.3, 10.2.2.4 ของเงื่อนไขการขนส่งนี้ อย่างไรก็ตาม เราจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ความช่วยเหลือที่ดีที่สุดแก่ผู้โดยสาร

ข้อที่ 11 การคืนเงิน

11.1.     เงื่อนไขการคืนเงิน

เราจะคืนเงินค่าโดยสารทั้งหมดหรือบางส่วนของบัตรโดยสาร EMD ที่ยังไม่ได้ใช้ตามข้อกำหนดด้านล่างนี้ และเป็นไปตามกฎหมายที่บังคับใช้:

11.1.1.   สามารถคืนบัตรโดยสารและ EMD ได้ภายในระยะเวลาที่มีผลบังคับใช้ เราจะปฏิเสธการคืนเงินหากผู้โดยสารยื่นคำขอคืนเงินหลังจากพ้น 30 วันนับจากวันที่บัตรโดยสารหรือ EMD หมดอายุ

              สำหรับบัตรโดยสารที่ออกโดย ตัวแทนที่ได้รับแต่งตั้ง จากเรา หรือสายการบินอื่น ผู้โดยสารจะต้องยื่นคำขอคืนเงินกับตัวแทนที่ได้รับแต่งตั้ง หรือสายการบินที่ออกบัตรโดยสารนั้น

11.1.2.   เราจะคืนเงินต่อเมื่อ คูปองเที่ยวบินอิเล็กทรอนิกส์ของบัตรโดยสาร EMD ยังไม่ได้ถูกใช้งาน เท่านั้น สำหรับ บัตรโดยสารสัมภาระที่เป็นกระดาษที่ต้องชำระเงิน ผู้โดยสารจะต้องส่งมอบเอกสารการเดินทางที่เป็นกระดาษที่ยังไม่ได้ใช้งานคืนให้เรา

11.1.3.   ยกเว้นในกรณีที่ระบุไว้ในข้อนี้ เราจะคืนเงินให้เฉพาะผู้ที่มีชื่ออยู่บนบัตรโดยสาร EMD หรือผู้ที่ชำระเงินค่าบัตรโดยสาร EMD เมื่อผู้ขอคืนเงินแสดง เอกสารประจำตัว หนังสือมอบอำนาจ ที่ถูกต้องตามกฎหมาย และ เอกสารการเดินทาง ที่ต้องการขอคืนเงิน

11.1.4.   การคืนเงินตามข้อ 11.1 นี้ ถือเป็นการคืนเงินที่ถูกต้องแก่ผู้มีสิทธิ์ ทั้งนี้ เราจะได้รับการยกเว้นจากความรับผิดชอบสำหรับคำร้องเรียนใด ๆ ที่กระทำโดยผู้โดยสารหรือบุคคลอื่นเกี่ยวกับการคืนเงินดังกล่าว

11.2.      การคืนเงินโดยสมัครใจ

หากผู้โดยสารขอคืนเงินบัตรโดยสาร EMD ด้วยเหตุผลอื่นนอกเหนือจากเหตุผลที่ระบุในข้อ 11.3 ของเงื่อนไขการขนส่งฉบับนี้ จำนวนเงินที่คืนจะเป็นดังนี้:

11.2.1    สำหรับบัตรโดยสาร EMD ที่ซื้อตามประเภท อัตราค่าบริการที่ไม่มีข้อจำกัดในการคืนเงิน

11.2.1.1   กรณีบัตรโดยสาร, EMD ยังไม่ได้ใช้งานทั้งหมด จำนวนเงินที่คืนจะเท่ากับ ยอดรวมค่าบริการที่ลูกค้าชำระไป ลบด้วย ค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม  

11.2.1.2 กรณีบัตรโดยสาร EMD ถูกใช้งานไปบางส่วน จำนวนเงินที่คืนจะเป็นส่วนต่างระหว่าง ยอดรวมค่าบริการที่ผู้โดยสารชำระไป และ ยอดรวมค่าบริการที่ใช้สำหรับการเดินทางส่วนที่ใช้งานไป ลบด้วย ค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม  

11.2.1.3 ค่าธรรมเนียมการเปลี่ยนแปลงบัตรโดยสาร EMD; ค่าธรรมเนียมการจัดการบริการ; ค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมที่ใช้สำหรับการออกบัตรโดยสาร การบริการผู้โดยสาร จะ ไม่สามารถคืนเงินได้ และจะไม่รวมอยู่ในยอดเงินที่คืน

11.2.2    สำหรับบัตรโดยสาร EMD ที่ซื้อในประเภทอัตราค่าบริการที่ไม่อนุญาตให้คืนเงิน

11.2.2.1.  เราจะไม่คืนเงินค่าบริการและค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมสำหรับบัตรโดยสาร EMD ทั้งหมดหรือบางส่วนที่ยังไม่ได้ใช้งาน เว้นแต่จะมีข้อกำหนดอื่น ๆ ที่สอดคล้องกับกฎหมายที่บังคับใช้

11.2.2.2.   เราจะคืนเงินค่าภาษี ค่าธรรมเนียม และค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บแทนหน่วยงานผู้มีอำนาจ ที่ยังไม่ได้ใช้และมีเงื่อนไขที่สามารถคืนเงินได้โดยจะหัก ค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม บางอย่างตามแต่ละตลาด หรือช่องทางการขายบัตรโดยสาร EMD ที่เราประกาศใช้ตามที่กฎหมายกำหนด หากค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมเกินกว่าค่าภาษี ค่าธรรมเนียมที่สามารถคืนเงินได้ ผู้โดยสารจะ ไม่ได้รับเงินคืน

11.3.      การคืนเงินโดยไม่สมัครใจ

หากการยกเลิกเที่ยวบินเกิดจากความผิดพลาดของทางเรา หรือไม่สามารถให้บริการเที่ยวบินตามกำหนดเวลาได้อย่างเหมาะสม รวมถึงกรณีที่ไม่สามารถนำส่งผู้โดยสารไปยังจุดหมายปลายทางสุดท้ายหรือจุดพักตามที่ระบุไว้ในบัตรโดยสาร หรือผู้โดยสารไม่ได้รับการให้บริการแม้ว่าจะได้รับการยืนยันที่นั่งแล้ว หรือส่งผลให้ผู้โดยสารพลาดเที่ยวบินต่อไปที่ได้รับการยืนยันที่นั่งไว้แล้ว การคืนเงินจะดำเนินการดังนี้:

11.3.1.   หากบัตรโดยสารหรือ EMD ยังไม่ได้ใช้งานเลย การคืนเงินจะเท่ากับราคาทั้งหมดที่ผู้โดยสารได้ชำระไว้

11.3.2.   หากบัตรโดยสารหรือ EMD ถูกใช้งานไปบางส่วน การคืนเงินจะคิดจากส่วนต่างระหว่างราคาทั้งหมดที่ชำระไว้ กับราคาสำหรับส่วนของเส้นทางที่ได้ใช้งานจริง ค่าธรรมเนียมการดำเนินการสำหรับบัตรหรือ EMD ที่ใช้ไปแล้วบางส่วนจะไม่ถูกคืน

11.3.3.   ข้อจำกัดเกี่ยวกับการคืนเงิน ค่าธรรมเนียมการคืน และค่าธรรมเนียมการยกเลิกที่นั่งจะได้รับการยกเว้น

11.3.4.  เมื่อผู้โดยสารยอมรับการคืนเงินตามเงื่อนไขดังกล่าวแล้ว สัญญาการเดินทางระหว่างเราและผู้โดยสารจะถือเป็นสิ้นสุด

11.4.      การคืนเงินสำหรับบัตรโดยสารสัมภาระที่ต้องชำระค่าบริการสูญหาย

11.4.1.   ในกรณีที่บัตรโดยสารสูญหายทั้งหมดหรือบางส่วน และผู้โดยสารสามารถแสดงหลักฐานการสูญหายได้อย่างน่าเชื่อถือ และยอมรับการชำระค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้อง การคืนเงินจะดำเนินการเมื่อบัตรสูญหายหมดอายุลง โดยมีเงื่อนไขดังนี้:

11.4.1.1.   บัตรโดยสารทั้งหมดหรือบางส่วนที่สูญหายยังไม่เคยถูกใช้งาน คืนเงิน หรือเปลี่ยนแปลง ยกเว้นในกรณีที่ความผิดเกิดจากเรา ซึ่งทำให้บัตรสูญหายถูกใช้งาน คืนเงิน หรือเปลี่ยนแปลงให้ผู้อื่น

11.4.1.2.   ผู้ได้รับเงินคืนจะต้องกรอกข้อมูลตามแบบฟอร์มของเรา และให้คำรับรองว่าจะคืนเงินที่ได้รับการชำระคืนแก่เราในกรณีที่มีการฉ้อโกง และ/หรือในกรณีที่ตั๋วโดยสารซึ่งสูญหายทั้งหมดหรือบางส่วน ถูกบุคคลอื่นนำไปใช้ เว้นแต่เป็นกรณีที่เกิดจากความผิดของเราที่ทำให้บัตรโดยสารที่สูญหายนั้นถูกนำไปใช้โดยบุคคลอื่น

11.4.2.   หากการสูญหายของบัตรโดยสารเกิดจากทางเราหรือตัวแทนที่ได้รับมอบหมาย ความรับผิดชอบในการดำเนินการจะเป็นของเราโดยตรง

11.5.      สิทธิในการปฏิเสธการขอคืนเงิน

11.5.1.   เราอาจปฏิเสธการขอคืนเงินบัตรโดยสารซึ่งได้แสดงให้เราหรือเจ้าหน้าที่รัฐเป็นหลักฐานแสดงเจตนาออกจากประเทศนั้นแล้ว เว้นแต่ว่าท่านทำให้เราเชื่อได้ว่าท่านได้รับอนุญาตให้คงอยู่ในประเทศนั้นต่อ หรือเดินทางออกจากประเทศนั้นโดยผู้ให้บริการรายอื่นหรือวิธีการขนส่งอื่น

11.5.2.  เราอาจปฏิเสธการคืนเงินในกรณีที่ระบุไว้ในข้อ 8.1 ของเงื่อนไขการขนส่งฉบับนี้

11.6.      การดำเนินการคืนเงิน

11.6.1.   รูปแบบการคืนเงิน

เราจะคืนเงินให้แก่ผู้โดยสารในรูปแบบเดียวกับช่องทางการชำระเงินเดิม หรือในรูปแบบอื่นตามนโยบายของเรา (ตามแต่ช่วงเวลา) และสอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รายละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบการคืนเงินจะเผยแพร่โดยเรา ตามที่กฎหมายกำหนด

11.6.2.  สกุลเงินที่ใช้ในการคืนเงิน

โดยทั่วไป การคืนเงินจะดำเนินการโดยใช้สกุลเงินที่ผู้โดยสารใช้ในการซื้อบัตรโดยสาร หรือสกุลเงินอื่นตามที่กฎหมายของสถานที่ที่ดำเนินการคืนเงินกำหนด

11.6.3.   ระยะเวลาการคืนเงิน

เราปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับระยะเวลาในการคืนเงินค่าบัตรโดยสาร

ข้อที่ 12 พฤติกรรมบนอากาศยาน

12.1.    เมื่ออยู่บนเครื่องบิน หากผู้โดยสารปฏิบัติตนตามข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้: (i) กระทำความผิด (ii) ข่มขู่ คุกคามความปลอดภัยทางการบิน ความมั่นคงทางการบิน (iii) ทำร้ายหรือคุกคามลูกเรือ หรือผู้โดยสาร (iv) ไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของนักบินผู้ควบคุมอากาศยานหรือลูกเรือที่ปฏิบัติการแทนนักบินผู้ควบคุมอากาศยานในการรักษาความปลอดภัยของเครื่องบิน รักษาความเป็นระเบียบวินัยบนเครื่องบิน (v) ทำลายสิ่งของ ทรัพย์สินในเครื่องบิน (vi) ใช้ยาเสพติด (vii) สูบบุหรี่บนเครื่องบิน รวมทั้งห้องน้ำบนเครื่องบิน และพฤติกรรมอื่น ๆ ที่ละเมิดกฎระเบียบทางธรรมเนียมประเพณี และความมั่นคงสาธารณะอื่น ๆ ซึ่งเราอาจใช้มาตรการที่เห็นสมควรและจำเป็นเพื่อป้องกันและหยุดยั้งพฤติกรรมดังกล่าว เรามีสิทธิ์ในการขอให้ผู้โดยสารลงจากเครื่องบิน และมอบตัวให้เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจที่สนามบินต้นทาง หรือสนามบินปลายทาง ปฏิเสธที่จะให้เดินทางกับสายการบินของเราตลอดไป และอาจดำเนินคดีตามที่กฎหมายระบุ

12.2.    ห้ามผู้โดยสารนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาดื่มเองระหว่างเที่ยวบินของเรา เว้นแต่จะรับบริการโดยพนักงานต้อนรับของเรา เรามีสิทธิ์ในการปฏิเสธการให้บริการหรือยึดคืนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ให้บริการผู้โดยสารแล้ว

12.3.    หากผู้โดยสารฝ่าฝืนข้อกำหนดตามข้อ 12.1 ของเงื่อนไขการขนส่งฉบับนี้ เรามีสิทธิ์เรียกร้องให้ผู้โดยสารชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจากความผิดของผู้โดยสาร ซึ่งรวมถึงค่าใช้จ่ายในการลงจอดฉุกเฉินของอากาศยาน ความเสียหายต่อบุคคล ทรัพย์สิน และความเสียหายอื่น ๆ ที่เรา ตัวแทน พนักงาน ผู้ให้บริการ ผู้โดยสาร และบุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้องได้รับผลกระทบ

12.4.    อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

เพื่อเหตุผลด้านความปลอดภัย ผู้โดยสารจะไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บนอากาศยาน (เช่น: โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์พกพา อุปกรณ์บันทึกเสียง วิทยุ MP3 เครื่องเล่นเพลง CD เครื่องเล่นเกม ผลิตภัณฑ์ที่ใช้แสงเลเซอร์ รวมถึงอุปกรณ์สื่อสาร เช่น ของเล่นควบคุมจากระยะไกลและเครื่องรับ-ส่งสัญญาณไร้สาย/วิทยุสื่อสารแบบพกพา…) หากไม่ได้รับอนุญาตจากเรา ในกรณีที่ได้รับอนุญาตจากเรา การใช้อุปกรณ์ดังกล่าวต้องเป็นไปตามแนวปฏิบัติของเรา ซึ่งจะแจ้งให้ผู้โดยสารทราบขณะอยู่บนอากาศยานผ่านวิดีโอแนะนำความปลอดภัย การประกาศโดยพนักงานต้อนรับ และคู่มือความปลอดภัยที่จัดไว้ ณ ที่นั่งของผู้โดยสารแต่ละคน อนุญาตให้ใช้เครื่องช่วยฟังและเครื่องกระตุ้นหัวใจได้ อนุญาตให้ใช้เครื่องช่วยฟังและเครื่องกระตุ้นหัวใจได้

ข้อที่ 13 จัดเตรียมบริการอื่น ๆ

13.1.    เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอย่างอื่นตามข้อกำหนดของเรา เราไม่มีหน้าที่ในการดูแล ดำเนินการ หรือให้บริการขนส่งภาคพื้นดินระหว่างสนามบิน หรือจากสนามบินไปยังสถานที่อื่น เราจะไม่รับผิดชอบต่อการดำเนินงานของผู้ให้บริการเหล่านี้ แม้ว่าพนักงานของเรา หรือตัวแทนของเราเป็นผู้ช่วยเหลือผู้โดยสารในการใช้บริการดังกล่าวก็ตาม

13.2.   หากเราต้องติดต่อบุคคลที่สามเพื่อให้บริการอื่น ๆ แก่ผู้โดยสารนอกเหนือจากการรับขนส่งทางอากาศ ได้แก่ การขนส่งทางรถไฟและการขนส่งทางทะเล หรือถ้าเราออกบัตรโดยสาร หรือบัตรกำนัลที่เกี่ยวกับการขนส่งหรือบริการอื่น ๆ (นอกเหนือจากการรับขนส่งทางอากาศ) โดยบุคคลที่สาม เช่น การจองโรงแรม หรือรถเช่า ในการทำเช่นนั้น เราจะทำหน้าที่เป็นตัวแทนของผู้โดยสารเท่านั้น โดยจะใช้ข้อกำหนดและเงื่อนไขของผู้ให้บริการบุคคลที่สาม รวมทั้งการตัดสินใจยกเลิก หรือปฏิเสธการให้บริการแก่ผู้โดยสาร และเราจะไม่รับผิดชอบต่อผู้โดยสารสำหรับบริการดังกล่าว ยกเว้นความประมาทในส่วนของเรา

13.3.    หากเราให้บริการขนส่งทางบก ทางรถไฟ หรือทางทะเลแก่ผู้โดยสาร อาจมีเงื่อนไขอื่น ๆ สำหรับการขนส่งดังกล่าว

13.4.    ผู้โดยสารจะต้องชำระค่าใช้จ่ายของตนเองนอกเหนือจากค่าธรรมเนียมที่รวมอยู่ในค่าบริการ

ข้อที่ 14 ขั้นตอนการบริหารจัดการ

14.1.      การสรุปโดยรวม

14.1.1.   ผู้โดยสารต้องศึกษากฎระเบียบเกี่ยวกับการออกประเทศและเข้าประเทศ รวมถึงการแวะพัก โดยต้องแสดงหนังสือเดินทาง วีซ่า ใบรับรองสุขภาพ (หากจำเป็น) และเอกสารประจำตัวอื่น ๆ ตามที่ร้องขอโดยสายการบิน

14.1.2.   ผู้โดยสารต้องปฏิบัติตามกฎหมาย กฎระเบียบ คำสั่ง พระราชบัญญัติ ข้อกำหนด และเงื่อนไขของประเทศที่เป็นจุดต้นทาง จุดปลายทาง หรือประเทศที่เที่ยวบินผ่าน

14.1.3.   เราจะไม่รับผิดชอบในกรณีต่อไปนี้: (i) ผู้โดยสารไม่มีเอกสารที่จำเป็น เช่น หนังสือเดินทาง วีซ่า ใบรับรองสุขภาพ หรือเอกสารอื่น ๆ หรือ (ii) เอกสารดังกล่าวหมดอายุหรือไม่ถูกต้อง หรือ (iii) ผู้โดยสารไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ คำสั่ง ข้อกำหนด หรือคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง

14.1.4.   เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสาร พนักงานของเรา หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมาย อาจให้คำแนะนำหรือแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับการขอเอกสารหรือวีซ่าที่จำเป็น รวมถึงข้อกำหนด ระเบียบ คำสั่ง หรือแนวทางปฏิบัติของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง ทั้งนี้ ข้อมูลหรือคำแนะนำที่ให้ไว้ในทุกรูปแบบจะถือเป็นข้อมูลเพื่อการอ้างอิงเท่านั้น

14.2.      เอกสารประจำตัว

ก่อนออกเดินทาง ผู้โดยสารต้องแสดงเอกสารทั้งหมดที่กฎหมาย ข้อบังคับ คำสั่ง ข้อกำหนด หรือเงื่อนไขของประเทศที่เกี่ยวข้องกำหนดไว้ให้แก่เรา รวมถึงหนังสือเดินทาง ใบอนุญาตการเดินทาง หรือเอกสารที่ใช้สำหรับการเดินทางเข้าออกประเทศ และเอกสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง หากเราร้องขอ ผู้โดยสารจะต้องอนุญาตให้เราเก็บรักษาและทำสำเนาหนังสือเดินทาง หรือเอกสารระบุตัวตนอื่นที่มีค่าเทียบเท่า โดยเอกสารเหล่านี้จะถูกส่งมอบให้กับสมาชิกลูกเรือเพื่อดูแลรักษาไว้จนสิ้นสุดเที่ยวบิน เรามีสิทธิ์ปฏิเสธการขนส่งหากผู้โดยสารไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดเหล่านี้หรือหากเอกสารประจำตัวของผู้โดยสารมีข้อบ่งชี้ว่าไม่ถูกต้องหรือไม่สมบูรณ์

14.3.      การปฏิเสธการเข้าประเทศ

หากผู้โดยสารถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าประเทศใดประเทศหนึ่ง ผู้โดยสารจะต้องรับผิดชอบชำระ: (i) ค่าปรับหรือค่าธรรมเนียมที่เราจำเป็นต้องชำระให้กับทางการของประเทศนั้น (ii) ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมตัวและการส่งตัวออกนอกประเทศ (iii) ค่าใช้จ่ายที่เหมาะสมอื่น ๆ ที่เราต้องรับภาระไว้ เราจะไม่คืนค่าบริการหรือค่าธรรมเนียมในการขนส่งผู้โดยสารไปยังจุดที่ถูกปฏิเสธการเข้าเมืองหรือถูกเนรเทศ

14.4.      ความรับผิดชอบของผู้โดยสารเกี่ยวกับค่าปรับ การควบคุมตัว และการซื้อบัตรโดยสารตามคำสั่งของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

หากเราจำเป็นต้องชำระหรือวางเงินประกันสำหรับค่าปรับ หรือค่าใช้จ่ายใด ๆ อันเนื่องมาจากการที่ผู้โดยสารไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อบังคับ คำสั่ง หรือเงื่อนไขต่าง ๆ เกี่ยวกับการเดินทาง หรือไม่มีเอกสารที่จำเป็นผู้โดยสารจะต้องชำระคืนให้แก่เราสำหรับค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เราได้ชำระไปหรือจะต้องชำระในอนาคต เราสามารถใช้เงินจำนวนใด ๆ ที่ผู้โดยสารได้ชำระให้เราไว้แต่ยังไม่ได้ใช้ หรือเงินใด ๆ ที่เราถือครองของผู้โดยสาร เพื่อชำระค่าใช้จ่ายดังกล่าว

14.5.      การตรวจสอบศุลกากร

หากมีการร้องขอ ผู้โดยสารต้องแสดงตัวเพื่อให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรหรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทำการตรวจสอบสัมภาระ เราจะไม่รับผิดชอบต่อการสูญหายหรือความเสียหายที่เกิดขึ้นระหว่างการตรวจสอบ หรือหากผู้โดยสารไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดดังกล่าว ยกเว้นในกรณีที่เกิดจากความผิดของเรา

14.6.      การตรวจสอบความปลอดภัย

ผู้โดยสารและสัมภาระต้องผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยจากเรา เจ้าหน้าที่รัฐบาล เจ้าหน้าที่สนามบิน หรือสายการบินอื่น ๆ เราจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นจากผลของการตรวจสอบความปลอดภัย ยกเว้นกรณีที่เกิดจากความผิดของเรา หรือจากการที่ผู้โดยสารไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดเหล่านี้

ข้อที่ 15 การขนส่งต่อเนื่อง

การขนส่งต่อเนื่องจะดำเนินการตามข้อกำหนดของอนุสัญญา

ข้อที่ 16 ความรับผิดชอบต่อความเสียหาย

16.1.      ข้อกำหนดหลักการ

16.1.1.  เงื่อนไขการขนส่งและกฎหมายที่บังคับใช้จะควบคุมความรับผิดชอบของเราต่อผู้โดยสาร ในกรณีที่เส้นทางการเดินทางของผู้โดยสารมีการเข้าร่วมจากสายการบินอื่น ความรับผิดชอบของสายการบินนั้นจะถูกกำหนดโดยกฎหมายที่บังคับใช้ ยกเว้นกรณีที่เงื่อนไขการขนส่งนี้มีข้อกำหนดอื่นเกี่ยวกับเงื่อนไขการขนส่งของพวกเขา สายการบินเหล่านี้อาจมีขีดจำกัดความรับผิดชอบที่ต่ำกว่า

16.1.2.   กฎหมายที่บังคับใช้อาจรวมถึงอนุสัญญาและ/หรือกฎหมายที่บังคับใช้ในแต่ละประเทศเฉพาะ

16.1.3.  เราจะรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากเที่ยวบินที่เราให้บริการ หรือในเที่ยวบินที่เรามีความรับผิดชอบตามกฎหมายต่อผู้โดยสาร หากเรามีการออกบัตรหรือทำการเช็คอินสัมภาระให้ผู้โดยสารบนเที่ยวบินของสายการบินอื่น เราจะรับผิดชอบในฐานะตัวแทนจำหน่ายของสายการบินนั้น ๆ เท่านั้น

16.1.4.   ข้อ 16 กำหนดขอบเขตความรับผิดชอบและสรุปข้อกำหนดที่เรานำมาใช้ตามกฎหมายที่ใช้บังคับ หากข้อ 16 นี้มีความขัดแย้งกับกฎหมายที่ใช้บังคับ ให้ยึดตามกฎหมายที่ใช้บังคับเป็นหลัก

16.2.      ความรับผิดชอบในการชดเชยความเสียหายต่อชีวิตและสุขภาพของผู้โดยสาร

ความรับผิดของเราต่อความเสียหายที่พิสูจน์ได้ในกรณีที่ผู้โดยสารเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุของเครื่องบินที่เกิดขึ้นจากหรือเกี่ยวข้องกับกระบวนการขนส่งที่เราดำเนินการ จะขึ้นอยู่กับข้อกำหนดและขอบเขตตามกฎหมายที่ใช้บังคับ รวมถึงข้อกำหนดเพิ่มเติมดังนี้:

16.2.1.   ขอบเขตความรับผิดชอบของเราต่อผู้โดยสารแต่ละรายที่เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บให้เป็นไปตามที่อนุสัญญากำหนด เราจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นกับผู้โดยสารในจำนวนที่เกินกว่าข้อกำหนดในอนุสัญญาหากเราสามารถพิสูจน์ได้ว่า:

(i) ความเสียหายไม่ได้เกิดจากความประมาทเลินเล่อ การกระทำผิด หรือการละเลยโดยบริษัทของเราหรือโดยพนักงานหรือตัวแทนที่ได้รับมอบหมาย; หรือ

(ii) ความเสียหายเกิดจากความประมาทเลินเล่อ การกระทำผิด หรือการละเลยโดยบุคคลภายนอกโดยสิ้นเชิง

16.2.2.   เราจะรับผิดชอบเฉพาะความเสียหายที่เกิดแก่ผู้โดยสารจากอุบัติเหตุบนเครื่องบินหรือระหว่างกระบวนการขึ้นและลงจากเครื่อง ในกรณีที่ความเสียหายเกิดจากความผิดของผู้โดยสาร เราอาจได้รับการยกเว้นหรือลดความรับผิดชอบในการชดใช้ความเสียหาย

16.2.3.  เราจะทำการจ่ายเงินล่วงหน้าแก่ผู้โดยสารหรือผู้มีสิทธิเรียกร้องตามข้อกำหนดอื่นของบริษัทให้สอดคล้องกับกฎหมายที่ใช้บังคับ จำนวนเงินล่วงหน้านี้ไม่ถือเป็นหลักฐานในการกำหนดความผิดของเราและจะถูกหักออกจากจำนวนเงินชดใช้ความเสียหายที่เราต้องจ่าย

16.3.      ความรับผิดชอบในการชดเชยความเสียหายต่อสัมภาระ

16.3.1.   เราจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายของสัมภาระถือขึ้นเครื่อง (ยกเว้นในกรณีเกิดจากความล่าช้า) เว้นแต่ความเสียหายนั้นเกิดจากความผิดของเราหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมาย

16.3.2.  ตามกฎหมายที่ใช้บังคับ เราจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดจากข้อบกพร่องโดยธรรมชาติ คุณภาพ หรือข้อเสียของสัมภาระ เช่นเดียวกัน เราจะไม่รับผิดชอบต่อการสึกหรอและการขาดชำรุดที่เกิดขึ้นอย่างสมเหตุสมผลจากการเคลื่อนที่และการกระแทกทั่วไปในการขนส่งทางอากาศ

16.3.3.   ขอบเขตความรับผิดของเราต่อความเสียหายของสัมภาระ (รวมทั้งสัมภาระถือขึ้นเครื่องและสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่อง) ในกรณีถูกทำลาย สูญหาย เสียหาย หรือล่าช้า ให้เป็นไปตามที่อนุสัญญากำหนด หรือไม่เกินมูลค่าที่ผู้โดยสารได้แถลงไว้ตามข้อ 9.7 แห่งเงื่อนไขการขนส่งนี้ (เว้นแต่เราสามารถพิสูจน์ได้ว่ามูลค่าที่แถลงไว้นั้นสูงกว่ามูลค่าที่แท้จริง)

16.3.4.  เราจะชดเชยความเสียหายเกี่ยวกับสัมภาระให้กับผู้โดยสารตามหลักการทั่วไป คือการชดเชยตามความเสียหายจริง แต่จะไม่เกินขีดจำกัดความรับผิดชอบของเรา ผู้โดยสารมีหน้าที่ในการพิสูจน์ความเสียหายจริงที่เกิดกับสัมภาระของตน

16.3.5.  ขอบเขตความรับผิดข้างต้นจะไม่บังคับใช้ หากความเสียหายเกิดจากการกระทำหรือการละเลยของเรา พนักงาน หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมาย โดยเจตนาหรือด้วยความประมาทเลินเล่อโดยมีความตระหนักว่าความเสียหายนั้นอาจเกิดขึ้นได้ ในกรณีที่การกระทำเกิดจากพนักงานหรือผู้แทน ต้องพิสูจน์ได้ว่าพวกเขากระทำในระหว่างปฏิบัติหน้าที่

16.3.6.  หากเส้นทางการเดินทางของผู้โดยสารอยู่ภายใต้กฎหมายของประเทศที่ผู้โดยสารอยู่ในขณะนั้น ข้อจำกัดความรับผิดชอบต่อความเสียหายของสัมภาระเช็คอินและสัมภาระถือขึ้นเครื่องภายใต้กฎหมายนี้จะมีผลบังคับใช้กับสัมภาระของผู้โดยสาร

16.3.7.  หากการเดินทางของผู้โดยสารไม่อยู่ภายใต้อนุสัญญา และกฎหมายของประเทศที่เกี่ยวข้องไม่มีการกำหนดขอบเขตความรับผิดต่อความเสียหายต่อสัมภาระที่โหลดใต้ท้องเครื่องและสัมภาระถือขึ้นเครื่อง เราจะใช้ขอบเขตตามที่ระบุไว้ในข้อ 16.3.3 ของเงื่อนไขการขนส่งนี้

16.3.8.   ผู้โดยสารสามารถแจ้งมูลค่าของสัมภาระ(ตามข้อ 9.7 ของเงื่อนไขการขนส่งนี้) หรือซื้อประกันเพิ่มเติม หากมูลค่าหรือค่าเปลี่ยนสัมภาระที่โหลดไว้เกินกว่าขอบเขตความรับผิดของเรา

16.3.9.  หากน้ำหนัก/จำนวนชิ้นของสัมภาระไม่ได้ระบุไว้ในบัตรโดยสารสำหรับสัมภาระที่คิดค่าธรรมเนียม การพิจารณาน้ำหนักหรือจำนวนชิ้นสัมภาระที่โหลดใต้ท้องเครื่องของผู้โดยสารจะถือว่าไม่เกินขีดจำกัดของสัมภาระที่สามารถนำโหลดได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายตามระดับชั้นบริการที่ผู้โดยสารใช้ ซึ่งเราได้ประกาศไว้ตามข้อกำหนดของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

16.3.10.    เราจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายของสัมภาระที่เกิดจากความล่าช้า เว้นแต่สามารถพิสูจน์ได้ว่า เรา พนักงาน หรือผู้แทน (i) ได้ใช้มาตรการที่สมเหตุสมผลแล้วแต่ความเสียหายยังเกิดขึ้น หรือ (ii) ไม่สามารถดำเนินมาตรการนั้นได้

16.3.11.    เราไม่รับผิดชอบต่อการบาดเจ็บของผู้โดยสารหรือความเสียหายต่อสัมภาระที่เกิดจากวัตถุภายในสัมภาระของผู้โดยสารหรือของบุคคลอื่น ผู้โดยสารต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายใด ๆ ที่เกิดจากสัมภาระของผู้โดยสารต่อบุคคลอื่น รวมถึงทรัพย์สิน และผู้โดยสารต้องชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดและค่าใช้จ่ายที่เราต้องรับภาระจากผลกระทบของการกระทำนั้น

16.3.12.    เราจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายต่อทรัพย์สินที่ระบุไว้ในข้อ 9.3.3 ของเงื่อนไขการขนส่งนี้ซึ่งบรรจุอยู่ในสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่องโดยไม่ได้แจ้งว่าขนส่งเป็นสัมภาระที่มีมูลค่าสูง หรือทรัพย์สินประเภทเดียวกัน แม้ว่าเราจะทราบหรือไม่ก็ตาม

16.3.13.    เราจะไม่รับผิดชอบใด ๆ ต่อความเสียหายที่เกิดกับสัมภาระของผู้โดยสาร หากสาเหตุมาจากการที่ผู้โดยสารไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดในข้อ 9.4.6 ของเงื่อนไขการขนส่งนี้ ซึ่งรวมถึงกรณีที่ผู้โดยสารไม่สามารถรับสัมภาระ ดำเนินการตามขั้นตอนสำหรับสัมภาระ หรือดำเนินการติดแท็กสัมภาระใหม่เพื่อขนส่งในเที่ยวบินของสายการบินอื่นที่เรามิได้มีสัญญาการขนส่งต่อเนื่องด้วย

16.3.14.    เราจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดกับสัมภาระ เว้นแต่ความเสียหายนั้นจะเกิดจากความผิดของเรา หากความเสียหายเกิดขึ้นโดยมีส่วนหนึ่งมาจากความผิดของผู้โดยสาร ความรับผิดของเราจะขึ้นอยู่กับการตีความตามกฎหมายที่ใช้บังคับเพื่อกำหนดส่วนความรับผิดของแต่ละฝ่าย

16.4.      ความรับผิดชอบในการชดเชยความเสียหายจากการขนส่งล่าช้าแก่ผู้โดยสาร

16.4.1.   ความรับผิดชอบของเราต่อความเสียหายอันเกิดจากความล่าช้าในการขนส่งบุคคล จะอยู่ภายใต้ขอบเขตที่กำหนดไว้ในอนุสัญญา

16.4.2.   ไม่ว่าข้อเรียกร้องของผู้โดยสารจะอยู่ภายใต้อนุสัญญาหรือไม่ก็ตาม เราจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายจากความล่าช้า หากเราสามารถพิสูจน์ได้ว่า เรา พนักงาน หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมาย (i) ได้ดำเนินมาตรการที่สมเหตุสมผลทุกประการเพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายดังกล่าว แต่ความเสียหายนั้นยังคงเกิดขึ้น หรือ (ii) ไม่สามารถดำเนินมาตรการดังกล่าวได้

16.5.      ข้อกำหนดอื่นๆ

ภายในขอบเขตที่ไม่ขัดแย้งกับข้อกำหนดข้างต้นและไม่ว่าจะอยู่ภายใต้ขอบเขตการใช้ของอนุสัญญาหรือไม่ จะมีการกำหนดดังนี้:

16.5.1.   เราจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติตามข้อกฎหมายของเรา หรือจากการที่ผู้โดยสารไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมาย

16.5.2.   เว้นแต่เงื่อนไขการขนส่งนี้จะกำหนดเป็นอย่างอื่นความรับผิดชอบในการชดเชยของเราจะถูกจำกัดอยู่ที่ความเสียหายจริงที่ผู้โดยสารพิสูจน์ได้และเป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมายที่บังคับใช้

16.5.3.  หากผู้โดยสารอยู่ในภาวะทางจิต อายุมาก หรือมีสภาพร่างกายที่อาจก่อให้เกิดอันตรายหรือความเสี่ยงต่อตัวผู้โดยสารเอง เราจะไม่รับผิดชอบต่ออาการเจ็บป่วย บาดเจ็บ หรือความพิการ รวมถึงการเสียชีวิตที่เกิดจาก หรือเป็นผลสืบเนื่องจากภาวะดังกล่าว

16.5.4.   การยกเว้นหรือจำกัดความรับผิดของเราจะมีผลและเป็นประโยชน์แก่พนักงานและผู้แทนของเรา รวมทั้งผู้ดำเนินการเครื่องบินที่เราใช้งาน และพนักงาน ผู้ให้บริการ และผู้แทนของบุคคลเหล่านั้น จำนวนเงินชดเชยสูงสุดที่เรา พนักงาน และผู้แทนของเราต้องรับผิด จะไม่เกินขอบเขตที่กำหนดไว้ในข้อบังคับการขนส่งนี้และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

16.5.5.  เว้นแต่จะมีข้อกำหนดอื่นเงื่อนไขไขนี้ ไม่มีเนื้อหาภายในเงื่อนไขการขนส่งนี้ที่จะยกเลิกการยกเว้นหรือการจำกัดความรับผิดชอบใด ๆ ของเราตามอนุสัญญาหรือกฎหมายที่กำหนด

16.5.6.  เราจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดจากเหตุสุดวิสัย

ข้อที่ 17 การร้องเรียนและฟ้องร้อง

17.1.      ระยะเวลาการร้องเรียนสัมภาระ

17.1.1.   เมื่อผู้โดยสารรับสัมภาระเช็คอินโดยไม่มีการร้องเรียน ณ จุดรับสัมภาระถือว่าเป็นหลักฐานที่เพียงพอว่าสัมภาระนั้นได้รับการส่งมอบอย่างครบถ้วนและเป็นไปตามสัญญาการขนส่ง

17.1.2.  เอกสารการร้องเรียน

ก่อนที่จะฟ้องร้องเกี่ยวกับการสูญหาย ขาดหาย เสียหาย หรือการขนส่งสัมภาระเช็คอินล่าช้า ผู้โดยสารหรือผู้แทนโดยชอบธรรมของพวกเขาจะต้องยื่นข้อเรียกร้องเป็นลายลักษณ์อักษรถึงเราภายในระยะเวลาดังต่อไปนี้:

17.1.2.1.   กรณีสัมภาระขาดหายหรือเสียหาย ทันทีที่พบความเสียหาย และอย่างช้าที่สุดภายใน 7 (เจ็ด) วัน นับจากวันที่ได้รับสัมภาระ

17.1.2.2.   กรณีสัมภาระสูญหายหนึ่งชิ้นหรือหลายชิ้น ทันทีที่พบความเสียหาย และอย่างช้าที่สุดภายใน 7 (เจ็ด) วัน นับจากวันที่ควรได้รับสัมภาระ

17.1.2.3.   กรณีสัมภาระถูกขนส่งล่าช้า ยี่สิบเอ็ดวัน นับจากวันที่ผู้มีสิทธิ์ได้รับสัมภาระได้รับสัมภาระแล้ว

17.2.      ข้อเสนอแนะ คำขอ ข้อร้องเรียนทั้งหมดของผู้โดยสารเกี่ยวกับคุณภาพการบริการ และคำขอชดเชยจะได้รับการรับและดำเนินการโดยเราบนหลักการที่สอดคล้องกับข้อกำหนดการขนส่งนี้ และปฏิบัติตามกฎหมายที่บังคับใช้ ผู้โดยสารสามารถยื่นข้อเสนอแนะหรือข้อร้องเรียนโดยตรงกับเรา หรือผ่านทางเว็บไซต์ หรือศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ของเราได้

17.3.      อายุความในการยื่นฟ้อง

อายุความในการยื่นฟ้องคดีเกี่ยวกับความรับผิดชอบในการชดเชยความเสียหายของเราต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นกับผู้โดยสารหรือสัมภาระคือภายในสองปี นับจากวันที่เครื่องบินถึงจุดหมายปลายทาง วันที่เครื่องบินต้องถึงจุดหมายปลายทางหรือจากวันที่การขนส่งสิ้นสุดลง ขึ้นอยู่กับว่ากรณีใดจะถึงช้าที่สุด วิธีการคำนวณระยะเวลาจะเป็นไปตามกฎหมายของประเทศที่ศาลพิจารณาคดี

ข้อที่ 18 ผลบังคับใช้และการแก้ไข

18.1.   เงื่อนไขการขนส่งนี้และข้อกำหนดของสายการบินสามารถถูกแก้ไขหรือเพิ่มเติมได้ตลอดเวลา การแก้ไขหรือเพิ่มเติมใดๆ ของเงื่อนไขการขนส่งนี้จะถูกขึ้นทะเบียนกับ หน่วยงานผู้มีอำนาจ และเผยแพร่ต่อสาธารณะตามที่กฎหมายกำหนดทันทีที่ได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานผู้มีอำนาจ เงื่อนไขการขนส่งนี้จะมีผลบังคับใช้หลังจาก 3 วัน นับจากวันที่ประกาศเผยแพร่ต่อสาธารณะตามที่กฎหมายกำหนด

18.2.    ไม่มีพนักงาน ผู้ทำงาน หรือผู้แทนใด ๆ ของเรามีสิทธิ์ในการแก้ไข ปรับปรุง หรือยกเลิกข้อกำหนดใด ๆ ในเงื่อนไขการขนส่งนี้

ข้อที่ 19 เงื่อนไขอื่น ๆ

สิทธิและหน้าที่ของเราที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งผู้โดยสารและสัมภาระของผู้โดยสารจะได้รับการดำเนินการตามข้อกำหนดของกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

ข้อที่ 20 หัวข้อและหัวเรื่อง

หัวข้อและหัวเรื่องของข้อกำหนดในเงื่อนไขการขนส่งนี้มีไว้เพื่ออ้างอิงถึงข้อกำหนดเท่านั้น และไม่ใช้ในการตีความเนื้อหาของข้อกำหนดนั้น ๆ